Thursday, February 5, 2015

ตร.พัทยา แจ้งข้อหาซูชิเปลือย ตะลึงคิดหัวละ 5 พัน




เจอแล้ว ร้านขายซูชิเปลือย อยู่เมืองพัทยา ตำรวจเชิญผู้ดูแลร้านแจ้งข้อหา ตะลึง รับทัวร์ต่างชาติเปิบพิสดาร คิดค่าหัว 5,000 บาทต่อคน นักสังคมสงเคราะห์ สับเละ ดูถูกแม่หญิงไทย...

ภายหลังจากโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก ได้มีการแชร์ภาพร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ที่ถูกระบุว่าอยู่ในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี จัดเมนูเปิบพิสดาร “ซูชิเปลือย” โดยจัดให้มีหญิงสาวเปลือยกายนอนบนโต๊ะอาหาร แล้วนำซูชิไปวางบนร่างเปลือยเปล่า เพื่อให้บริการลูกค้า จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบต่อการกระทำดังกล่าว และถึงแม้ว่าภายหลังจากเกิดเรื่องแพร่สะพัดออกไป ร้านอาหารอื้อฉาวรายนี้จะได้ปิดให้บริการชั่วคราวลง แต่ประชาชนต่างก็เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งเข้าตรวจสอบ และดำเนินการตามกฎหมาย เพราะทำให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยา และเกิดภาพลบกับผู้หญิงไทยเป็นอย่างมาก

ล่าสุด พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้เปิดเผยกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ว่า ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เชิญตัว นายอภิชาติ วงศ์สุริยา อายุ 38 ปี ผู้ดูแลร้านโตเกียวคิด ตั้งอยู่เลขที่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่กระทำการดังกล่าว มารับทราบข้อกล่าวหา กระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัล และเปลือยกายในที่สาธารณะแล้ว เบื้องต้นจากการสอบถามนายอภิชาติ อ้างว่า เมนูพิสดารดังกล่าว จะมีขึ้นเป็นครั้งคราวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นและเกาหลี ที่จะมากับกรุ๊ปทัวร์ โดยทางร้านจะคิดหัวละประมาณ 5,000 บาท ไม่รวมค่าเครื่องดื่มอื่นๆ พร้อมกับยืนยันว่า แม้จะมีเมนูสาวเปลือยกาย แต่ไม่มีการค้าประเวณีในร้านแน่นอน ส่วนหญิงสาวที่มาทำตัวเป็นจานรองซูชินั้น ได้รับค่าตัวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2,000 - 5,000 บาท

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่า จะเรียกหญิงสาวเหล่านั้น มาสอบสวนว่าได้มีการค้าประเวณีด้วยหรือไม่ต่อไป และขณะนี้ได้ให้ทางร้านปิดบริการเป็นการชั่วคราวไปก่อน

อย่างไรก็ดี ด้าน นางสาวสุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ได้แสดงความเห็นว่า การกระทำดังกล่าวคงไม่สามารถตำหนิเพียงแค่ตัวผู้หญิงเพียงฝ่ายเดียว แต่ต้องพิจารณาไปถึงทางผู้ประกอบการ เจ้าของร้านด้วยว่า มีเหตุผลอย่างไรต่อการกระทำเช่นนี้ โดยเฉพาะประเด็นที่ใช้หญิงสาวเปลือยไปนอนบนโต๊ะราวกับเป็นสินค้า เป็นวัตถุทางเพศ อีกทั้งทำให้คนต่างชาติมองหญิงไทยในแง่ลบ และทางที่ไม่เหมาะสม ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการทำธุรกิจเชิงเพศพาณิชย์ เป็นการทำการค้าที่ไม่เหมาะสม เข้าข่ายอนาจาร.




ที่มาข่าวโดย: thairath.co.th

0 comments:

Post a Comment

Show Emoticons