Thursday, July 9, 2015

'เซเรนา' ทุบ 'ชาราโปวา' เข้าชิงดำวิมเบิลดัน



เซเรนา วิลเลียมส์ มือ 1 ของโลกและของรายการ ยังแกร่งเกินต้านหลังไล่หวดเอาชนะ มาเรีย ชาราโปวา มือ 4 ของรายการขาดลอย 2 เซตรวดผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับ การ์บีน มูกูรูซา ม้ามืดชาวสเปนต่อไป...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน วันที่ 9 ก.ค. 58 ว่า การแข่งขันเทนนิสแกรนด์ สแลม รายการที่ 3 ของปี วิมเบิลดัน 2015 ที่สนามออล อิงแลนด์ คลับ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นการแข่งขันในประเภทหญิงเดี่ยวรอบรองชนะเลิศ

โดยคู่หยุดโลกในวันนี้เป็นการพบกันของ เซเรนา วิลเลียมส์ มือ 1 ของโลกและของรายการชาวสหรัฐอเมริกา ลงสนามพบกับ มาเรีย ชาราโปวา นักเทนนิสสาวสวยมือ 4 ของรายการชาวรัสเซีย

ผลปรากฎว่าในเซตแรก เซเรนา เล่นได้แน่นอนกว่าก่อนเบรกชาราโปวาได้ถึง 2 เกมเอาชนะไปก่อน 6-2

ต่อมาเซตที่ 2 เซเรนายังเล่นได้ดีกว่าบวกกับ ชาราโปวา ตีเสียเองบ่อยครั้งและโดนเซเรนาเบรกเกมเสริฟไปในเกมที่ 5 แพ้ไปอีก 4-6

ส่งผลให้ เซเรนา วิลเลียมส์ เอาชนะ มาเรีย ชาราโปวา ไปได้แบบขาดลอย 2-0 เซต 6-2 และ 6-4 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับ การ์บีน มูกูรูซา ม้ามืดมือ 20 จากสเปนต่อไป





ที่มา http://www.thairath.co.th/content/510579

“ฟ้าขาว” รั้งที่ 1 ในรอบ 7 ปี, “ไทย” ร่วงอีก 11 อันดับฟีฟ่าแรงกิ้ง


ทัพ "ฟ้าขาว" อาร์เจนติน่า ผงาดรั้งที่หนึ่งในอันดับฟีฟ่าแรงกิ้งครั้งแรกในรอบ 7 ปี ในขณะที่ทีมชาติไทย ผลงานดีแต่กลับหล่นลงไปอีก 11 อันดับ

สหพันธ์ลูกหนังนานาชาติ(ฟีฟ่า) ประกาศการจัดอันดับโลกของทีมชาติประจำเดือนกรกฎาคม ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทีมชาติ อาร์เจนติน่า ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมแม้คว้าอันดับ 2 ในศึก โคปา อเมริกา ผงาดขึ้นรั้งอันดับ 1 แทนที่เยอรมันเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งถือเป็นอันดับ 1 ในรอบ 7 ปีของทัพฟ้าขาวเลยก็ว่าได้

ในขณะที่ทีมชาติไทย ในเดือนก่อนพุ่งขึ้นไปรั้งที่อันดับ 129 แต่ล่าสุดผลปรากฎว่าทัพ "ช้างศึก" ร่วงลงไปมากถึง 11 อันดับ รั้งอันดับ 140 ของโลก

นอกจากนี้ทีมชาติเวลส์ ยังขยับขึ้นมารั้งอันดับ 10 ซึ่งเป็นอันดับสูงที่สุดของประวัติศาสตร์ทีมชาติด้วย

10 อันดับฟีฟ่าแรงกิ้งประจำเดือนกรกฎาคม มีดังนี้

1. อาร์เจนตินา
2. เยอรมัน
3. เบลเยียม
4. โคลอมเบีย
5. เนเธอร์แลนด์
6. บราซิล
7. โปรตุเกส
8. โรมาเนีย
9. อังกฤษ
10. เวลส์

อันดับฟีฟ่าอื่นๆที่น่าสนใจ

12. สเปน
17. อิตาลี
22. ฝรั่งเศส
140. ไทย





ที่มา http://sport.sanook.com/157583/

“ราฮีม” งัดข้อหงส์! เบี้ยวซ้อมอ้างป่วย-สาปส่ง “บีร็อด” ไม่ขอร่วมงานอีกต่อไป


ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกตัวเก่งของลิเวอร์พูล ใกล้ที่จะหมดอนาคตในถิ่นแอนฟิลด์แล้ว ล่าสุดมีกระแสข่าว แข้งวัย 20 ปี ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับผู้จัดการทีม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ไม่ค่อยสู้ดีนัก เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เขาอยากเก็บข้าวของย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล

แข้งวัย 20 ปี พลาดการฝึกซ้อมกับทีมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวอ้างว่าป่วย หลังจากวันก่อน สเตอร์ลิ่ง ได้เข้าพบและพูดคุยกับ ร็อดเจอร์ส รายงานข่าวระบุว่า ร็อดเจอร์ส ต้องการให้ สเตอร์ลิ่ง อยู่ค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์ต่อไป และบอกว่าหากเขาอยากได้เงินเพิ่ม ตนสามารถจัดการในเรื่องให้ได้

แต่ สเตอร์ลิ่ง ยืนกรานกับ ร็อดเจอร์ส ว่า ไม่ต้องการร่วมงานกับกุนซือวัย 42 ปีอีกต่อไปแล้ว รวมทั้งประกาศไม่ขอร่วมเดินทางมาทัวร์ปรีซีซั่นกับ ลิเวอร์พูล ด้วย และแสดงความต้องการที่อยู่ในอังกฤษแทน ส่งผลให้ แมนฯ ซิตี้ จับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมทุ่มเงิน 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,621 ล้านบาท) เพื่อคว้าตัวไปร่วมทีม

นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่า แฟนหงส์แดงบางส่วนได้บุกไปที่บ้านของ สเตอร์ลิ่ง เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน สเตอร์ลิ่ง ยังโดนเดอะ ค็อป ส่งข้อความมาด่าในวอทแอพจำนวนมาก หลังมือดีนำเบอร์โทรศัพท์ของเขาไปโพสต์ลงในโลกออนไลน์




ที่มา http://sport.sanook.com/157555/

หงส์แดงเปิดตัวแดนนี่ อิงก์ หัวหอกตัวใหม่ใส่เสื้อเบอร์ 28


แดนนี่ อิงก์ กองหน้าของเบิร์นลีย์เซ็นสัญญากับลิเวอร์พูลอย่างเป็นทางการ หลังตกลงย้ายมาอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ เมื่อช่วงปิดฤดูกาล
 หัวหอกวัย 22 ปีรายนี้จะได้สวมเสื้อหมายเลข 28
 อิงก์  กล่าวหลังการเซ็นสัญญาว่า รู้สึกยอดเยี่ยมมากที่ได้ย้ายมาอยู่กับยอดทีมของอังกฤษที่มีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่มาอย่างยาวนาน และรอคอยความท้าทายใหม่ๆกับสโมสรแห่งนี้ ขณะเดียวกันหวังว่าจะสามารถปรับให้เข้ากับสไตล์การเล่นของลิเวอร์พูลโดยเร็วที่สุด

 สำหรับอิงก์ซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมแล้วและพร้อมจะเดินทางมาเตะอุ่นเครื่องที่ประเทศไทย ในวันอังคารที่ 14 ก.ค.นี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน






ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1436376089







Wednesday, July 8, 2015

อึ้งทั้งสนาม! มือหนึ่งโลก “โนเล่” โวยเด็กเก็บบอลหญิงจนน้ำตาซึม (คลิป)



สำนักข่าวเดลี่ เมล์ รายงานว่า เกิดเหตุชวนอึ้งระหว่างการแข่งขันเทนนิสรายการ "วิมเบิลดัน"

เมื่อโนวัค โยโควิช ได้ใช้อารมณ์ต่อว่าเด็กเก็บบอลหญิงจนมีอาการเหมือนร้องไห้ เพราะหัวเสียระหว่างเกมการแข่งขันของเขา ขณะที่เจ้าตัวบอกว่าพร้อมที่จะขอโทษเด็กเก็บบอลสาวผู้นี้

รายงานระบุว่า ในเกมการแข่งขันดังกล่าวที่มีขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งนักเทนนิสมือหนึ่งของโลกรายนี้ได้แข่งขันกับ เควิน แอนเดอร์สัน และถือเป็นการป้องกันแชมป์รายการนี้ของเขา

ปรากฎว่า "โนเล่" ต้องออกแรงหนักกว่าจะสามารถเอาชนะไปได้ 3 ต่อ 2 เซต โดยระหว่างเกม โยโควิชได้ระเบิดอารมณ์ฉุนเฉียวใส่เด็กเก็บบอลหญิงในสนาม เมื่อเขาส่งเสียงตวาดขอผ้าขนหนูเช็ดเหงื่อใส่เธออย่างดุเดือด ซ้ำๆกันหลายรอบ โดยเด็กเก็บบอลหญิงรายนี้ถึงกับมีอาการตัวสั่น และน้ำตาซึมเหมือนจะร้องไห้

ส่วนบุคคลในสนามดังกล่าวกล่าวว่า เธอต้องดื่มน้ำอย่างเครียดหลังถูกใส่อารมณ์ดังกล่าวจากมือเทนนิสอันดับ 1 โลกผู้นี้ ก่อนที่โยโควิชจะปิดเกมชนะไปได้อย่างหืดจับ

และเขาได้เดินออกจากสนามเทนนิสโดยไม่ได้ใส่ใจมองกลับไปยังเด็กเก็บบอลหญิงผู้นี้แต่อย่างใด โดยผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งบอกว่า โยโควิชได้ตะคอกใส่เด็กเก็บบอลหญิงรายนี้ โดยเขาอยู่ห่างเธอราว 2-3 ฟุต ขณะที่ฝ่ายหลังได้แต่ยืนอึ้งตัวสั่น







ที่มา http://sport.sanook.com/157539/

เปิดใจโค้ชไมโครเนเซีย “นักเตะส่วนใหญ่ไม่เคยออกนอกหมู่บ้านด้วยซ้ำ!”


กุนซือที่เพิ่งพาทีมเสียไปถึง 114 ประตูจาก 3 เกม ออกมาเปิดใจถึงผลงานสะท้านโลกในเกมชิงแชมป์โซนโอเชียเนีย

"สแตน ฟอสเตอร์" กุนซือทีมชาติไมโครเนเซีย ออกมาเปิดเผยความรู้สึกหลังพาทีมเสียไปถึง 114 ประตูจาก 3 เกมในฟุตบอล แปซิฟิกเกมส์ 2015 ที่ปาปัวนิวกินี

ทีมหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกตกเป็นข่าวดังไปทั่วทั้งโลก หลังเปิดสนามพ่ายให้กับตาฮิติไปถึง 0-30 และโดนฟิจิถลุงไปถึง 0-36 ในนัดต่อมา ก่อนที่พวกเขาจะปิดท้ายรอบแรกด้วยการโดนวานูอาตูอัดไปถึง 0-46

"มันเหมือนเด็กเจอกับผู้ใหญ่" ฟอสเตอร์ให้สัมภาษณ์กับ เดอะ การ์เดี้ยน

"ตอนนี้มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับเรา ต้องถือว่าเรายังเดินเตาะแตะกันอยู่เลย เราต้องเรียนรู้และรู้ว่าเราต้องกลับไปฝึกซ้อมให้หนักขึ้นและเรียนรู้ทักษะให้มากกว่านี้"

ฟอสเตอร์ที่เรียกตัวนักเตะมาเพียง 18 คนจากโควต้า 23 คนยังได้เผยว่า ผู้เล่นในทีมกว่าครึ่งเพิ่งจะออกมาจากหมู่บ้านของพวกเขาเป็นครั้งแรก เพื่อทำการแข่งขันในรายการนี้

"นักเตะส่วนใหญ่ของเราไม่เคยออกมาจากหมู่บ้าน หรือไปที่เกาะอื่นตามลำพังเลย ผมพาพวกเขาไปที่กวมและนั่นเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ขึ้นลิฟท์และบันไดเลื่อน"

"มันเป็นการข้ามขั้นที่ใหญ่มากของพวกเขา แล้วก็หงอกันไปหมดจริงๆ" ฟอสเตอร์ร่ายยาว

ทั้งนี้ ไมโครเนเซีย เป็นหมู่เกาะเล็กๆในมหาสมุทรแปซิฟิค ที่มีประชากรเพียงแค่ 100,000 คน และเพิ่งจะเข้าร่วมการแข่งขันของสมาพันธ์ฟุตบอลโอเชียเนียเป็นครั้งแรกในรายการนี้






ที่มา http://sport.sanook.com/157443/

คอนเฟิร์ม! "เลอันโดร" ซบ "พลังเอ็ม" แบบยืมตัว


“เดอะ แรบบิท” บางกอกกล๊าส เอฟซี ปล่อย เลอันโดร โอลิเวียร่า หัวหอกแซมบ้า ย้ายซบอสถสภา เอ็ม-150 แล้ว

บางกอกกล๊าส เอฟซี ยืนยันปล่อย โอลิเวียร่า ไปร่วมทีม “พลังเอ็ม” โอสถสภา เอ็ม-150 ด้วยสัญญาแบบยืมตัวแล้ว  หลังหัวหอกวัย 32 ปี ย้ายจาก การท่าเรือ เอฟซี มาร่วมทีม บีจี แบบไร้ค่าตัว ในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา และลงสนามให้ บีจี ทุกรายการ 12 นัด ทำได้ 2 ประตู ทำให้ บีจี ตัดสินใจปล่อยตัวให้ โอสถสภา เอ็ม-150 ทีมร่วมศึกโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีกยืมตัว หลังจากจบเกมส์ที่บีจีออกไปเยือน การท่าเรือ ซึ่งเป็นเกมส์สุดท้ายของ เลคแรก และให้ยืมจนจบฤดูกาลนี้

สำหรับ บางกอกกล๊าส เอฟซี มีโปรแกรมเปิดบ้านรับการมาเยือนของ สระบุรี เอฟซี ในศึกโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก ในวันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคมนี้ ที่สนามลีโอ สเตเดี้ยม ในเวลา 20.00 น.





ที่มา http://www.posttoday.com

Tuesday, July 7, 2015

อย่างเว่อร์! “ไมโครนีเซีย” โดนอีก 46 เม็ด รวม 3 นัดเสีย 114 ประตู (คลิป)


ทีมฟุตบอลของสหพันธรัฐไมโครนีเซีย ในศึกแปซิฟิก เกมส์ ครั้งที่ 15 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า ลงเล่นไป 2 นัด โดนตาฮิติถล่ม 30-0 ต่อมาทีมชาติฟิจิ ก็ยิงอีก 38-0

ซึ่งตอนนี้ก็รอว่า สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า จะรับรองผลการแข่งขันว่า เป็นการทำประตูมากที่สุดในเกมระดับชาติหรือไม่

แต่ว่าล่าสุดเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา ไมโครนีเซีย ก็โดน วานูอาตู ยิงอีก 46-0 ทำให้ 3 นัด โดนยิงไปแล้ว 114 ประตู ซึ่งเรื่องนี้ ถ้าฟีฟ่ารับรองผลการแข่งขัน ก็จะกลายเป็นสถิติโลกใหม่แน่นอน





ที่มา http://sport.sanook.com/157403/

'ชิลี' แม่นโทษ! ดับ 'ฟ้าขาว' 4-1 ซิวแชมป์โคปาฯ สมัยแรก


"เจ้าภาพ" ชิลี เสมอ "ฟ้าขาว" อาร์เจนตินา  ใน 120 นาที ไป 0-0 ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ ผลปรากฏว่า ชิลี ยิงแม่นกว่าเอาชนะไปได้ 4-1 คว้าแชมป์โคปา อเมริกา 2015 ไปครองได้สำเร็จ และเป็นแชมป์สมัยแรกในประวัติศาสตร์อีกด้วย...


การแข่งขันฟุตบอล โคปา อเมริกา 2015 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 4 ก.ค. ที่สนาม เอสตาดิโอ นาซิอองนาล   "เจ้าภาพ" ทีมชาติชิลี  ลงสนามพบกับ "ฟ้าขาว" อาร์เจนตินา  อดีตแชมป์ 14 สมัย ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองทีมเจอกันในนัดชิงชนะเลิศของศึกโคปา อเมริกา

เกมนี้ ฮอร์เก ซัมเปาลี กุนซือชิลี จัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม นำโดย อาร์ตูโร วิดัล,อเล็กซิส ซานเชซ และ เอดูอาร์โด วาร์กัส ขณะที่ เคราร์โด มาร์ติโน กุนซือทัพฟ้าขาว หวังพาทีมคว้าแชมป์สมัยที่ 15 สูงสุดเท่ากับอุรุกวัยให้ได้ ส่งผู้เล่นตัวหลักลงสนามครบถ้วน นำโดย ลิโอเนล เมสซี,อังเคล ดิ มาเรีย และ เซร์คิโอ อเกวโร

เปิดฉากครึ่งแรกมาถึง น.20 อาร์เจนตินา ได้ฟรีคิกข้างกรอบเขตโทษฝั่งขวา ลิโอเนล เมสซี เปิดโค้งเข้าไปให้ เซร์คิโอ อเกวโร โขกเน้นๆระยะแค่ 3 หลา แต่ เคลาดิโอ  บราโว นายด่านชิลี  เซฟออกไปได้อย่างสุดยอด

ถัดมา 2 นาที  เป็นโอกาสของชิลีบ้าง จากจังหวะที่   ฟรานซิสโก ซิลวา เปิดบอลยาวขึ้นหน้าให้ เอดูอาร์โด  วาร์กัส  ควบพาบอลเข้าเขตโทษก่อนซัดด้วยขวา บอลพุ่งข้ามคานอย่างน่าเสียดาย

จากนั้น น.45  ชิลี ได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะที่ อเล็กซิส ซานเชซ ได้บอลในเขตโทษ ก่อนหาจังหวะปั่นด้วยขวา แต่บอลตรงตัว เซร์คิโอ โรเมโร นายด่านฟ้าขาว


ช่วงทดเจ็บ อาร์เจนตินา เกือบได้เฮ จากจังหวะที่ ฮาเวียร์  ปาสตอเร หลุดมาในเขตโทษด้านขวาก่อนหักกลับมาให้ เอเซเกล ลาเวซซี  วิ่งมาแปเน้่นๆ  แต่ บราโว ก็ยังเซฟออกไปได้ ทำให้จบครึ่งแรก ชิลี ยังเสมอ อาร์เจนตินา อยู่ 0-0

กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง ถึง น.82 ชิลี น่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆ มาติอัส เฟอร์นานเดซ เปิดบอลเข้าเขตโทษอย่างแม่นยำให้ อเล็กซิส ซานเชซ วอลเลย์ด้วยขวา บอลเฉี่ยวเสาไกลออกไปนิดเดียว


ช่วงทดเจ็บ อาร์เจนตินา พลาดโอกาสทอง จากจังหวะที่ เมสซี พาบอลขึ้นมาก่อนจ่ายเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ ลาเวซซี ปาดเรียดมาเสาสองให้ กอนซาโล อิกัวอิน ยิงเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าผิดหวัง ก่อนจบ 90 นาทีไปด้วยสกอร์นี้ ต้องมาลุ้นกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ ซึ่งก็ยังยิงกันไม่ได้ ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ

ในการดวลจุดโทษ ผลปรากฏว่า ทางฝั่งชิลีทั้ง มาติอัส เฟอร์นานเดซ,อาร์ตูโร วิดัล,ชาร์ลส์ อรันกีซ และ อเล็กซิส ซานเชซ ยิงเข้าทั้งหมด  ขณะที่  อาร์เจนตินา ยิงเข้าแค่คนเดียวคือ ลิโอเนล  เมสซี ส่วน กอนซาโล อิกวาอิน ซัดข้ามคาน และ เอแวร์ บาเนกา ยิงติดเซฟ เคลาดิโอ บราโว

ส่งผลให้ ชิลี ดวลจุดโทษเอาชนะ อาร์เจนตินา ไป 4-1 คว้าแชมป์โคปา อเมริกา ไปครองเป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์


รายชื่อ  11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม

ชิลี : เคลาดิโอ บราโว,เมาริซิโอ อิสลา,ฟรานซิสโก ซิลวา,ฌอน โบเซชูร์,การี เมเดล, อาร์ตูโร วิดัล, มาร์เซโล ดิอาซ, ชาร์ลส์ อารันกีซ,ฮอร์เค วัลดิเวีย,เอดูอาร์โด วาร์กัส, อเล็กซิส ซานเชซ

อาร์เจนตินา: เซร์คิโอ โรเมโร,มาร์ติน เดมิเคลิส,พาโบล ซาบาเลตา,นิโคลัส โอตาเมนดี,มาร์กอส โรโฮ,ฮาเวียร์ มาสเคราโน,ลูคัส บีญา,อังเกล ดิ มาเรีย,ฮาเวียร์ ปาสตอเร,ลิโอเนล เมสซี,เซร์คิโอ อเกวโร






ที่มา http://www.thairath.co.th/content/509489

'อำนาจ' ชนะคะแนน 'คาซิเมโร' เอกฉันท์ ป้องกันแชมป์สำเร็จ


"เจ้าเพชร" อำนาจ เกษตรพัฒนา ป้องกันเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) เอาไว้ได้ หลังเอาชนะคะแนน "จอห์นรีล คาซิเมโร" ผู้ท้าชิงรองแชมป์อันดับ 1 ชาวฟิลิปปินส์ ไปแบบเอกฉันท์

วันที่ 27 มิ.ย. “ศึกโมโน 29 บิ๊กไฟต์” ซึ่งเป็นการชกป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) ครั้งที่ 4 ของ  “เจ้าเพชร” อำนาจ เกษตรพัฒนา แชมป์โลกรุ่นฟลายเวท สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) ดวลกับ จอห์น รีล คาซิเมโร ผู้ท้าชิงรองแชมป์อันดับ 1 ชาวฟิลิปปินส์

ยกที่ 1 อำนาจ แชมป์โลกหนึ่งเดียวของไทยอยู่มุมแดง ส่วน คาซิเมโร อยู่มุมน้ำเงิน หลังเสียงระฆังดังทั้งคู่ปราดเข้าใส่ทันที แต่ยังต่อยดูเชิงกันอยู่ อำนาจดูดีกว่านิดๆ

ยกที่ 2 อำนาจ ฟอร์มดุ ปล่อยหมัดขวาใส่ คาซิเมโร เน้นๆ นักชกปินส์โดนนับ 8

ยกที่ 3 อำนาจ พลาดโดนหมัดซ้ายของ คาซิเมโร เต็มๆ แต่ก็ดักปล่อยหมัดขวาเอาคืนได้เหมือนกัน

ยกที่ 4  อำนาจ เริ่มปล่อยหมัดซ้ายมากขึ้น ส่วน คาซิเมโร เริ่มเอาวิธีตุกติกออกมาใช้ แต่ไม่ค่อยได้ผล อำนาจคุมเกมได้ดี

ยกที่ 5 การชกสูสี อำนาจดักต่อยเป็นระยะ ส่วน คาซิเมโร ปล่อยหมัดซ้ายเข้าหน้าอำนาจได้เหมือนกัน

มาถึงยกที่ 6 ครึ่งทางกันแล้ว คาซิเมโร เดินเข้าหาอำนาจมากขึ้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก แถมโดนอำนาจดักต่อยไปหลายที

ยกที่ 7 อำนาจ ผ่อนคลายมากขึ้น ดักต่อยเข้าเบ้าตา ก่อนปล่อยหมัดขวาบวกซ้าย จน คาซิเมโร โดนนับ 8 อีกรอบ

เข้าสู่ยกที่ 8 อำนาจ แย็บซ้ายใส คาซิเมโรเรื่อยๆ คุมสถานการณ์ไว้ได้ทำเอานักชกปินส์งงๆ ไม่รู้จะต่อยยังไงดี

ยกที่ 9 คาซิเมโร เดินไล่บี้เร็วมากขึ้น แต่โดน อำนาจ ปล่อยหมัดขวาจน ถึงกับหน้าสั่นแถมหัวทิ่มอีกต่างหาก ก่อนที่อำนาจจะคุมเกมการชกไว้ได้ดี

ยกที่ 10 คาซิเมโร เดินเข้าหาอำนาจเหมือนเดิม พยายามจะใช้ทีเด็ดจากหมัดขวา แต่แชมป์ชาวไทยไม่สะท้าน คุมเกมเอาไว้ได้เหมือนเดิม

ยกที่ 11 คาซิเมโร เริ่มนอตหลุด ใช้ลูกตุกติกแถมชกใต้เข็มขัด อำนาจคุมเชิงได้ แต่มาพลาดโดนตัด 1 คะแนน

ยกที่ 12 ยกสุดท้ายแล้ว คาซิเมโร เริ่มหงุดหงิดต่อยไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ส่วนอำนาจดักต่อยไปเรื่อย ต้องไปรอลุ้นผลคะแนนจากกรรมการทั้ง 3 คน

หลังจากรวมคะแนนแล้ว กรรมการให้คะแนน 3 คน จากประเทศสหรัฐอเมริกา ให้อำนาจ ชนะคะแนน จอห์นรีล คาซิเมโร ไปแบบเอกฉันท์ 116-110, 113-112 และ 115-110 ทำให้อำนาจป้องกันแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท (IBF) ได้สำเร็จ






ที่มา http://www.thairath.co.th/content/507948

จิ๊บๆ! สื่อเผย “สตีวี่ จี” จ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละ 2 ล้านบาท


"สตีเว่น เจอร์ราร์ด" อดีตกองกลางกัปตันทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่เวลานี้ข้ามน้ำข้ามทะเล ย้ายไปเล่นให้กับ "ลอส แองเจลิส กาแล็กซี่" ในเมเจอร์ลีก ซ็อคเก้อร์ ของสหรัฐอเมริกา ต้องควักเงินจ่ายเดือนละ 1.85 ล้านบาท ในส่วนของค่าเช่าบ้าน ที่อยู่แถวริมทะเลมาลิบู

ซึ่งบ้านพักของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์วัย 35 ปีชาวอังกฤษ ที่จะใช้อาศัยระหว่างที่เป็นนักเตะของทีมลอส แองเจลิส กาแล็กซี่ ในเมเจอร์ลีก ซ็อคเก้อร์ ของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่แถวริมทะเลมาลิบู โดยบ้านดังกล่าว มีราคาสนนอยู่ที่ราว 954 ล้านบาท และมีค่าเช่าอยู่ที่ราว 1.85 ล้านบาท ต่อเดือน

ในบ้านประกอบไปด้วย 6 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, สระว่ายน้ำ, ห้องรับแขก 3 ห้อง, ห้องครัว และห้องชมภาพยนตร์ขนาดใหญ่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน นอกจากนั้นแล้ว บ้านพักดังกล่าวยังอยู่ในบริเวณจุดสูงสุดของเบฟเวอร์ลี่ ฮิลล์ส

ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยของมหาเศรษฐีรวมถึงคนดังทั่วโลกอีกด้วย โดยจุดนี้จะทำให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ทั่ว แอลเอ และ ฮอลลีวู้ด ได้เต็มที่








ที่มา http://sport.sanook.com/157317/

ริบเข็มขัด! “ฟลอยด์” โดนถอนแชมป์โลกดรีมไฟต์นัดดวล “ปาเกียว”


สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า "เดอะ มันนี่" ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ กำปั้นไร้พ่ายจากสหรัฐอเมริกา ถูกปลดเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นเวลเตอร์เวต ขององค์กรมวยโลก หรือ ดับเบิลยูบีโอ หลังเอาชนะ แมนนี่ ปาเกียว ยอดนักชกฟิลิปปินส์ ในไฟต์เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

โดย ฟลอยด์ ไม่ปฏิบัติตามกฏระเบียบที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมจำนวน 200,000 เหรียญสหรัฐ หรือกว่า 6 ล้าน 8 แสนบาท ตามกำหนดเดธไลน์เมื่อวันที่ 3 กรกฏาคมที่ผ่านมา ทำให้องค์กรมวยโลก ได้ออกแถลงถอดถอนตำแหน่งแชมป์โลกของ ฟลอยด์ ในรุ่นเวลเตอร์เวต ส่งผลให้เข็มขัดเส้นนี้ว่างลงตามกฏ อย่างไรก็ตามเจ้าตัวมีเวลายื่นอุธรณ์เรื่องนี้จนถึงวันที่ 20 กรกฏาคมนี้

คาดว่า ดับเบิลยูบีโอ จะมอบเข็มขัดที่ว่างเส้นนี้ ให้กับ ทิโมธีย์ แบร็ดลีย์ นักชกชาวอเมริกัน ที่เอาชนะ เจสซี่ วาร์กาส นักชกเพื่อนร่วมชาติ หลังคว้าแชมป์เฉพาะกาลเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา




http://sport.sanook.com/157299/

Monday, July 6, 2015

โพลดี้ชูเสื้อ ซบกาลาตาซาราย 3 ปีค่าตัว 100 ล้าน


ลูคัส โพดอลสกี้ ศูนย์หน้าวัย 30 ปีดีกรีทีมชาติเยอรมัน(อินทรีเหล็ก) ย้ายหนี”ปืนใหญ่”อาร์เซน่อล ไปซบทีมกาลาตาซาราย มหาอำนาจลูกหนังแดนไก่งวง(ประเทศตุรกี) เป็นเวลา 3 ปี เป็นที่เรียบร้อย โดยดีลครั้งนี้มีค่าตัวการอยู่ที่ 2.5 ล้านยูโร (ราว 100 ล้านบาท)

กาลาตาซาราย ทีมมหาอำนาจลูกหนังแดนไก่งวง(ประเทศตุรกี) ประกาศเปิดตัว ลูคัส โพดอลสกี้ นักเตะสมาชิกใหม่ของทีมช่วงซัมเมอร์นี้ ที่ไปคว้าตัวมาจาก”ปืนใหญ่”อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัว 2.5 ล้านยูโร (ราว 100 ล้านบาท) หรือ 1.8 ล้านปอนด์ (ราว 95 ล้านบาท)

ขณะที่ ลูคัส โพดอลสกี้ กองหน้าทีมชาติเยอรมัน วัย 30 ปี ได้เซ็นสัญญาลงเล่นให้กับถิ่นเติร์ก เทเลคอม อารีน่า เป็นระยะเวลา 3 ปี พ่วงออปชั่นขยายเพิ่มอีก 1 ปี 

สำหรับ ลูคัส โพดอลสกี้ ย้ายจาก เอฟซี โคโลญจน์ สู่ถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อปี 2012 และฤดูกาล 2014/2015 ที่ผ่านมา ช่วงเปิดตลาดเดือนมกราคม ถูกปล่อยตัวให้ อินเตอร์ มิลาน ยืมไปใช้งาน




ที่มา http://sport.sanook.com/157211/

Sunday, July 5, 2015

ผ่าเรียบร้อย! “ชนาธิป” ซึ้งใจ แฟนบอลไทยส่งกำลังใจล้นหลาม


หลังจาก "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลางคนสำคัญของทีมชาติไทยและสโมสรบีอีซี เทโรศาสน เข้ารับการผ่าตัดบริเวณข้อเท้าซ้าย เพื่อเอาเศษกระดูก 4 ชิ้นออก ที่ รพ.กรุงเทพ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม และคาดว่าแข้งวัย 21 ปี อาจจะต้องพักรักษาตัวเป็นเวลา 2 เดือน

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 4 กรกฎาคม แพทย์อนุญาตให้ "เมสซี่เจ" เดินทางกลับไปพักฟื้นที่บ้านแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "เมสซี่เจ" ได้รับกำลังใจจากแฟนๆ อย่างล้นหลาม และต่างอวยพรให้ "เมสซี่เจ" หายเจ็บโดยเร็ว เพื่อที่จะได้กลับมาลงสนามช่วยทีมช้างศึกและสโมสรฯ ได้อีกครั้ง

"ผมพร้อมแล้วนะครับ ‪#‎ขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ" ชนาธิป บอก‬

อย่างไรก็ดี ช่วงที่ "เมสซี่เจ" นอนพักอยู่ที่ รพ.กรุงเทพ 2 วัน ปรากฎว่า มีพี่ๆ น้องๆ ในวงการฟุตบอลและแฟนคลับเดินทางมาเยี่ยมเกือบ 100 คน

อาทิ "ตอง" กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ กับ คลีตัน ซิลวา 2 นักเตะจากเอสซีจี เมืองทองฯ, ยูซูเกะ คาโตะ อดีตเพื่อนร่วมทีมบีอีซีฯ ชาวญี่ปุ่น

รวมทั้งเพื่อนร่วมทีมมังกรไฟในปัจจุบัน อย่าง ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ชยพัทธ์ กิจพงษ์ศรีธาดา, ทศพร ศรีเรือง, ชิดชนก ไชยเสนสุรินธร ฯลฯ

นอกจากนี้ยังมี "ซอ" เสียงซอ เลิศรัตนชัย กับ "ซี" รวิสรา เวชากร 2 นักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทย เดินทางมาเยี่ยมและมอบกระเช้าดอกไม้ พร้อมการ์ดอวยพรอีกด้วย




ที่มา http://sport.sanook.com/157055/

Saturday, July 4, 2015

สุดต้าน!ตบสาวไทยแพ้ขาดญี่ปุ่น


                       ลูกยางสาวไทยต้านความแข็งแกร่งของญี่ปุ่น อันดับ 4 โลก ไม่ไหว พ่ายไป 3 เซตรวด ศึกวอลเลย์บอลหญิง 'เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2015' แมทช์ที่ 2 ที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก

                      4 ก.ค. 58  การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง “เอส เวิลด์ กรังปรีซ์ 2015” รอบคัดเลือก สัปดาห์แรก กลุ่ม เอ ที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก เป็นวันที่สอง ท่ามกลางบรรยากาศคึกคักทั้งในและนอกสนาม ซึ่งเต็มไปด้วยบรรดาแฟนลูกยางชาวไทย โดยนัดแรก ทีมนักตบลูกยางสาวไทย อันดับ 12 ของโลก เฉือนชนะ เซอร์เบีย 3-2 เซต ลงเล่นนัดที่สอง พบกับ “สาวปลาดิบ” ญี่ปุ่น อันดับ 4 ของโลก ที่พ่ายบราซิลมา 1-3 เซต ส่วนสถิติการพบกันในเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ที่ผ่านมา สาวไทยเป็นฝ่ายชนะ 2 แพ้ 5 ครั้ง

                      นัดนี้ไทยส่งผู้เล่น 6 คนแรก ได้แก่ วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ กัปตันทีม, นุศรา ต้อมคำ, อรอุมา สิทธิรักษ์, ปลื้มจิตร์ ถินขาว, หัตถยา บำรุงสุข โดยมี วรรณา บัวแก้ว ทำหน้าที่ตัวรับอิสระ ลงสนามพบ ญี่ปุ่น ที่นำโดย ซาโอริ คิมูระ กัปตันทีม และ มิยู นากาโอกะ สองผู้เล่นหลัก

                      เซตแรก สาวไทยออกสตาร์ทได้อย่างสวยงาม นำ 8-4 อรอุมาทั้งเสิร์ฟและตบเป็นผล ไทยขยับหนี 13-7 เรียกเสียงเฮจากกองเชียร์ได้ต่อเนื่อง ทำให้ญี่ปุ่นต้องขอเวลานอกเพื่อแก้เกม และสามารถเล่นได้เหนียวแน่นขึ้น สอยแต้มไล่มาเสมอไทยได้เป็นครั้งแรก 13-13 จากนั้นผลัดกันได้แต้ม และเป็นญี่ปุ่นที่สุดท้ายเกมรุกและรับทำได้ดีกว่า เอาชนะไป 25-21 นำไปก่อน 1-0 เซต

                      เซตสอง สาวไทยตั้งหลักสู้ใหม่ มลิกา กันทอง และอัจฉราพร คงยศ ช่วยตบ นำ 10-5 ญี่ปุ่นเล่นดีบ้าง ทำ 3 แต้มรวดไล่มา 8-10 แต่สาวไทยยังแกร่งได้ทีเด็ดปลื้มจิตร์ช่วยไหลแต้มนำ 14-11 ญี่ปุ่นแก้เกมไล่มา 16-16 ทำให้ไทยต้องวางแผนสู้ใหม่ ก่อนกลับมาดวลกันอย่างสนุก 19-19 จากนั้นผลัดกันตั้งกำแพง ทว่าเป็นญี่ปุ่นที่ตบฝ่าบล็อกได้ดีกว่า เอาชนะไป 25-22 นำ 2-0 เซต

                      เซตสาม แม้สถานการณ์ของทีมสาวไทยตกเป็นรองแต่ก็ยังสู้ไม่ถอย อรอุมาช่วยตบให้สาวไทยนำ 6-4 แต่ญี่ปุ่นก็ไม่ยอมง่ายๆ ตีเสมอ 7-7 จากนั้นผลัดกันเสมอหลายครั้ง 11-11, 14-14, 17-17 ญี่ปุ่นได้ 2 แต้มติด ขยับหนี 19-17 สาวไทยไม่ยอมแพ้ พยายามไล่มา 22-24 แต่ก็ต้านญี่ปุ่นไม่ไหว ซึ่งชนะไป 25-22 สรุปทีมลูกยางสาวไทยแพ้ญี่ปุ่น 0-3 เซต 21-25, 22-25 และ 22-25 ส่วนผลคู่แรก บราซิล อันดับ 2 ของโลก ชนะ เซอร์เบีย อันดับ 8 ของโลก 3 เซตรวด 25-20, 25-15 และ 25-19

                      หลังจบเกม "โค้ชอ๊อต" เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าโค้ชทีมนักตบลูกยางสาวไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณกองเชียร์ทุกคนในสนามที่มาเป็นกำลังใจให้นักตบสาวไทย และขอบคุณนักกีฬาทุกคนที่เล่นได้อย่างเต็มที่ เกมนัดนี้นับเป็นเกมที่ดีมาก ขอชื่นชมทีมญี่ปุ่นที่มีการเสิร์ฟที่ดี เกมรับที่ดี และมีการรุกกลับที่รวดเร็วจนทำให้เราตั้งรับไม่ทันและเป็นฝ่ายแพ้ไป จากนี้ต้องดูสิ่งที่ทีมผิดพลาดในเกมแล้วนำไปแก้ไขโดยเฉพาะเกมรับ ก่อนจะไปพบ บราซิลในเกมต่อไป ส่วนตัวเชื่อว่าเกมนี้จะเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับพัฒนาฝีมือของนักกีฬาทุกคนที่ลงแข่งขัน สำหรับลูกที่มีการชาลเลนจ์ทำให้เราเสียแต้มนั้นไม่ติดใจ ยอมรับการตัดสินใจของกรรมการ

                      ส่วน ร.อ.จักรสุวรรณ โตเจริญ เลขาธิการสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงการขายบัตรเกินราคาและบัตรปลอมว่า สมาคมได้รับการร้องเรียนเรื่องตั๋วเข้าชมการแข่งขัน โดยมีบุคคลนำตั๋วเข้าชมการแข่งขัน ของวันที่ 3 กรกฎาคม มาแก้ไขเป็นวันที่ 4 กรกฎาคม พร้อมแก้เวลา และไปขายในราคา 2,000 บาท ให้ชาวต่างชาติ ซึ่งเข้าสนามไปแล้วหาที่นั่งไม่ได้จึงรู้ว่าเป็นบัตรปลอม จึงตามหาคนที่ขายและขอรับเงินคืนโดยไม่ติดใจอะไร จึงเอาผิดไม่ได้ เพราะไม่มีหลักฐาน ส่วนอีกกรณีคือ มีการนำตั๋วที่ระบุว่าห้ามขายหรือตั๋วอภินันทนาการ ออกมาขาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ 1 รายและส่ง สน.หัวหมากไปแล้ว

                      สำหรับนัดต่อไป ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายของการแข่งขันสัปดาห์แรก นักวอลเลย์บอลสาวไทยพบ บราซิล เวลา 16.30 น. และ ญี่ปุ่น พบ เซอร์เบีย เวลา 14.00 น. วันที่ 5 กรกฎาคมนี้ ที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก




ที่มา http://www.komchadluek.net/detail/20150704/209162.html

'ซัวเรซ' หัวใจหล่อ! หอบเสื้อพร้อมลายเซ็นเซอร์ไพรส์ผู้ป่วย


พ่อพระนอกสนาม หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าฟันกระต่ายของ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลนา หอบเสื้อพร้อมลายเซ็นบุกเซอร์ไพรส์แฟนบอลหนุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งถึงโรงพยาบาลตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้…

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 4 ก.ค. ว่า หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าฟันกระต่ายของ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลนา สโมสรแชมป์ลีกลาลีกา สเปน ทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ด้วยการโผล่ไปเซอร์ไพรส์แฟนบอลเด็กหนุ่มผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งถึงโรงพยาบาล พร้อมมอบเสื้อแข่งและลายเซ็น

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซัวเรซ ได้ใช้ระบบวิดีโอคอลล์ของสไกป์ สนทนากับ มาเตโอ เด็กหนุ่มผู้ติดเชื้อโรคมะเร็งเมื่อ 2 ปี ซึ่งในการพูดคุยครั้งนั้นดาวยิงทีมชาติอุรุกวัยได้อ้างตัวเป็นแพทย์เฉพาะทางจากสเปน ก่อนจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง

ท่ามกลางความปลื้มปีติของแฟนบอลหนุ่ม ซัวเรซ ก็ได้แสดงความชื่นชม โดยบอกว่า "คุณกล้าหาญมากๆ และเป็นนักสู้ เพราะฉะนั้นแล้วคุณจะต้องเดินหน้าสู้ต่อไป" และก่อนจบการสนทนาอดีตดาวเตะของลิเวอร์พูลยังได้ให้คำสัญญาว่าจะเซ็นเสื้อแข่งให้หาก มาเตโอ เชื่อฟังคำสั่งของแพทย์และเข้ารับการรักษา

ล่าสุดหลังจากการพูดคุยเพียง 2 เดือน กองหน้าวัย 28 ปี ได้ควงคู่ภรรยา โซเฟีย เดินทางมาที่โรงพยาบาลเปไรรา เพื่อมอบเสื้อพร้อมลายเซ็นให้กับแฟนบอลหนุ่มน้อยรายนี้ตามสัญญา


เนย์ คาสติโญ หนึ่งในทีมแพทย์ประจำโรงพยาบาล ทวีตข้อความว่า "วันนี้เด็กๆ ที่กล้าหาญของมูลนิธิ เปเรซ สครีมินิ ได้มีคุณหมอที่น่าอัศจรรย์ 2 คนมาเยี่ยมพวกเขา ขอบคุณ หลุยส์ และ โซเฟีย"

ทั้งนี้ ซัวเรซ เองก็เป็นผู้ให้การสนับสนุนของมูลนิธิ เปเรซ สครีมินิ ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ให้การดูแลรักษาและวิจัยเด็กที่เป็นโรคมะเร็งในประเทศอุรุกวัย




ที่มา http://www.thairath.co.th/content/509420

Friday, July 3, 2015

เปิดใจเบื้องหลังความสำเร็จ 'โชคทวี พรหมรัตน์' แม่ทัพช้างศึกซีเกมส์ 2015


หลังจากสามารถพาทีมชาติไทย ก้าวขึ้นไปครองตำแหน่งเจ้าอาเซียนได้อีกสมัย กุนซือผู้นำทัพอย่าง "โค้ชโชค" โชคทวี พรหมรัตน์ ก็ถูกจับตามองมากขึ้นเป็นพิเศษ แต่ชีวิตการเป็นกว่าจะประสบความสำเร็จได้ ต้องฝ่าฟันกับสิ่งแวดล้อมลรอบข้างมาอย่างมากมาย วันนี้เฮดโค้ชผู้พาทีมเถลองบังลังค์แชมป์ซีเกมส์ ที่เคยผ่านมาทั้งตอนเป็นโค้ช และนักเตะ ได้ให้เกียรติมาเปิดใจทุกประเด็นกับทีมข่าวกีฬาไทยรัฐออนไลน์ ถึงความรู้สึกที่ต้องแบกรับความหวังของคนทั้งชาติ กระแสปรามาส ความคาดหวัง การปกป้องลูกทีมจากกระแสวิจารณ์ทางโชเซียล รวมถึงข่าวลือเรื่องการทะเลาะกับเพื่อนซี้อย่าง "ซิโก้" ซึ่งเขาจะมาเปิดใจให้ได้ทราบกันทุกประเด็น....

ความรู้สึกหลังจากจบเกมในนัดชิงชนะเลิศจนถึงตอนนี้ยังตื่นเต้นดีใจอยู่ไหม?

แน่นอนว่ามันเป็นความทรงจำที่ดีอยู่แล้ว เพราะเป็นครั้งแรกที่จากในฐานะนักฟุตบอล แล้วมาเป็นโค้ชคนที่ 4 ในประวัติศาสตร์ ที่พาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ซีเกมส์ ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของวงศ์ตระกูลด้วย และอีกอย่างคือเราสามารถทำให้คนไทยมีความสุข นั้นคือสิ่งสำคัญที่สุด

หลังจบการแข่งขันมีเดินสายแก้บนที่ไหนบ้าง?

มีอนุสาวรีย์สมเด็จกระเจ้าตากสินมหาราช ในกรุงเทพ และก็ไปที่จังหวัดสตูล ซึ่งเป็นวัดหลวงพ่อแก่ที่นับถือ นอกจากนั้นก็ยังมีวัดหลวงพ่อโสธร ด้วย

ความรู้สึกครั้งแรกที่ "ซิโก้" เปิดโอกาสให้คุมทีมซีเกมส์ รู้สึกอย่างไรบ้าง?

ก็รู้สึกขอบคุณพี่โก้ที่ให้ความไว้วางใจ แต่ก็รู้สึกดดันด้วย เพราะในซีเกมส์ครั้งนี้มีเหรียญฟุตบอลแค่เหรียญเดียว ท่านนายกสมาคมฯ ก็บอกด้วยว่าต้องได้กลับมา ทำให้เราทำงานอย่างหนัก ซึ่งอย่างที่เห็นคือผมไม่ค่อยยิ้มแย้มแจ่มใสเท่าที่ควรเพราะโดยส่วนตัวอึดอัด แต่เราจะไม่ทำให้เด็กเห็น จะมีก็เพียงแค่การปรึกษากันเองในทีมงานเท่านั้น

ก่อนถึงการแข่งขัน เคยมีความคิดสักครั้งไหมว่ากลัวทำไม่สำเร็จ?

มันมีอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอกว่ามันเป็นความท้ายทายที่สูงมาก เพราะตัวผู้เล่นเราพร้อมขนาดนี้ ถ้าทำให้ความแชมป์ไม่ได้ก็คงต้องยอมรับ


ความรู้สึกของการไปในฐานะนักเตะ กับในฐานะโค้ชต่างกันมากแค่ไหน?

ต่างกันมากครับ เพราะในฐานะนักเตะ เราเพียงแค่รักษาฟอร์มการเล่นของตัวเองคนเดียวพอ แต่ในฐานะโค้ชเราต้องรับผิดชอบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นนักฟุตบอลในทีมกว่า 20 คน ไหนจะเจ้าหน้าที่ซึ่งเราต้องดูแลและประสานงาน เพราะฉะนั้นการเป็นโค้ชจะยากกว่ามาก

มีกระแสวิพากวิจารณ์ก่อนแข่งในเรื่องของประสบการณ์คุมทีมที่น้อยเกินไป รู้สึกอย่างไรบ้าง?

ก็ได้ยินมาบ้างในเรื่องที่เคยโดยปรามาส แต่โดยส่วนตัวไม่ค่อยซีเรียสเท่าไร เพราะเขาไม่ได้ดูปูมหลังว่าผมไปอยู่เมืองนอกมา 7 ปี สิงคโปร์ผมก็ไปค้าแข้งอยู่นานถึง 5 ปี จนคนที่โน่นรู้จักเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นผมไม่ได้กังวลเลย แต่ผมกังวลเรื่องสมาธิของเด็กในทีมมากกว่า ส่วนเรื่องอื่นผมไม่ค่อยสนใจ เพราะมันไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

อยากให้พูดถึงเกมแรกของการแข่งขันที่ชนะลาว 5-0 ว่ารู้สึกอย่างไร?

เกมนัดแรกเรายิงเขาได้เยอะจริง แต่แนวรับเรามีจุดผิดพลาดเยอะมาก ดีที่ว่าทีมชาติลาวเขาทำไม่ได้เอง เพราะฉะนั้นเราจึงต้องพยายามเอาเทปมาศึกษาแก้ไขข้อบกพร่องในเกมต่อไป จนสุดท้ายเราก็เสียแค่ประตูเดียวตลอดการแข่งขัน เพราะทุกทีมที่เจอกับเราเขามาตั้งรับกันหมดเลย จะมัวแต่บุกเขาจนเพลินแล้วลืมหลังบ้านไม่ได้ ผมจึงพยายามเน้นย้ำกับน้อง ๆ ว่าเกมรับต้องสำคัญที่สุด จนทำให้เราเสียเพียงแค่ประตูเดียว

แต่หลังจากนั้นกลับชนะคู่แข่งแค่ 1-0 อีก2 นัด เพราะอะไร?

มันเป็นฟุตบอลจะยิงกี่ลูกก็สามแต้มเหมือนกันเอาหมด เพราะแฟนบอลก็น่าจะเห็นว่าทั้ง มาเลเซีย แต่ก่อนเปิดเกมสู้กับเราตลอด แต่มาในครั้งนี้พวกเขาตั้งรับ 100 % เลย ส่วน ติมอร์ แน่นอน เขามาเพื่อรับอย่างเดียวซึ่งฟุตบอลมันไม่ใช่อย่างนั้น แต่โชคดีที่ได้ 3 แต้ม มาทำให้เราทำอะไรหลายอย่างได้ง่ายขึ้น

ถือว่าพอใจที่เสียแค่ลูกเดียว?

ผมคิดว่าโชคดีที่เสียในเกมที่พบกับเวียดนาม เพราะถ้าเกิดเรายังไม่เสียประตูไปเล่นในรอบลึก ๆ แล้วนักเตะอาจจะกดดันก็ได้


ภาพที่แฟนบอลจำได้แม่นคือ หลังจบเกม "โค้ชโชค" กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ตอนนั้นรู้สึกยังไง?

มันรู้สึกแวบหนึ่งว่าไม่ต้องคิดในเกมฟุตบอลแล้ว คิดว่าเราก็ทำได้เหมือนกัน มันออกมาเองโดยไม่รู้ตัว

จำได้ไหมว่าชีวิตนี้เคยเสียน้ำตาเพราะฟุตบอลมาแล้วกี่ครั้ง?

จำไม่ได้หรอกครับว่ากี่ครั้ง แต่ก็เยอะเหมือนกัน มีทั้งชนะบ้าง แพ้บ้าง ทั้งสมหวัง ผิดหวัง มีทุกรสชาติตั้งแต่ติดทีมชาติมา 15 ปี ก็มีทั้งแมตช์ที่ดีที่สุดในชีวิต แมตช์อัปยศมีหมด เพราะฟุตบอลมันหนีไม่พ้น ถ้าชนะคนก็ชื่นชม แพ้คนก็รุมด่า มันต้องยอมรับ

ในชีวิตนักเตะเคยคว้าแชมปซีเกมส์ เพียงแค่ 2 ครั้ง ถือว่าน้อยเกินไปไหม?

(หัวเราะ) คือสมัยก่อนซีเกมส์มีแต่ชุดใหญ่เท่านั้น ไม่มีชุดอาายุ 23 ปี รุ่นพี่ก็เก่ง ๆ ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นก็พอใจแล้ว ที่ได้แชมป์ 2 ครั้ง

ได้ข่าวว่าภรรยาก็ไปเชียร์ด้วยถึงขอบสนาม ช่วยในเรื่องกำลังใจเยอะแค่ไหน?

แฟนพี่โก้ (คุณเปิ้ล อัสราภา) เป็นคนชวน จริง ๆแล้วเขาไม่ค่อยไปไหน ครั้งนี้เขาไปด้วยก็มีน้อง ๆ ในทีมแซวบ้างตามประสา แต่จริง ๆ ผมไม่ค่อยได้เจอเขาเท่าไร เพราะเจอกันจริง ๆ แค่ตอนทานข้างเที่ยงกันแค่นั้นและ เขาก็ไปเที่ยวกันต่อ มันก็มีบ้างช่วยในเรื่องของกำลัง (หัวเราะ)

หลายคนแทบไม่ทราบเลยว่าโค้ชโชคมีแฟนแล้ว พอจะแนะนำให้แฟนบอลไทยได้ทราบหน่อยได้ไหมแฟนเป็นใครมาจากไหน?

จริงๆ แล้วเริ่มคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนธรรมศาสตร์ ตอนนี้ทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ เพราะฉะนั้นความเข้าใจก็ค่อนข้างเยอะเพราะเป็นผู้ใหญ่กันทั้งคู่ คบกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2537 ก็เกือบ 20 กว่าปี

หลังซีเกมส์ มีกระแสข่าวลือหนาหูมากเกี่ยวกับเรื่องทะเลาะกับ ซิโก้ ได้ยินข่าวนี้แล้วรู้สึกยังไง?

ผมมองว่าเราอยู่ในด้านสว่าง เป็นธรรมดาที่จะมีคนติชมบ้าง ดีด้วยซ้ำไปที่มันเป็นกระแส แต่จะจริงหรือไม่จริง ผมว่าเดียวสังคมก็ตอบแทนเอง เพราะว่าพวกผมก็อยู่กันมานานแล้ว ผมทำเพื่อชาติอย่างเดียว อย่างอื่นไม่ติดใจเท่าไร

ในยุคโซเชียลที่มีเหล่า "เกรียนคีย์บอร์ด" หรือ "แฟนบอลโปรไลเซนส์" รู้สึกยังไงกับกระแสคำวิจารณ์ของคนกลุ่มนี้?

ผมโดนตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะแล้ว ช่วงนั้นตอนตอนตัดฟุตบอลโลก 2006 กับ เกาหลีเหนือ เราแพ้ในบ้าน 1-4 เกิดกระแสครั้งใหญ่เลย แล้วก็ ซูซูกิ คัพ ครั้งที่ผ่านมา กีรติ เขียวสมบัติ โดนหนักมากเลย โดนเล่นถึงบุพการีด้วย แล้วนักเลงคีย์บอร์ดคนนั้นก็ออกมาขอโทษในภายหลัง แต่มันทดแทนไม่ได้หรอกเพราะคุณทำไปแล้ว

อย่างชุดนี้ก็เหมืนอกัน มีทั้ง ชนานันท์ กับ ฐิติพันธ์ เกิดกระแสคำถามว่าทำไมถึงยังให้เล่นอยู่ทั้งที่ฟอร์มไม่ดี แต่ผมก็คุยกับเด็กตลอดว่า อ่านได้นะ แต่ถ้าคุณไปใส่ใจมันด้วย อาจทำให้ฟอร์มการเล่นหมดไปด้วย เพราะฉะนั้นปล่อยให้มันผ่านไป เล่นเกม ดูหนัง อะไรก็ว่าไป อย่างนั้นดีกว่า


แล้วโดยส่วนตัวมีติดตามกระแสเหล่านี้บ้างหรือเปล่า?

มีสิ เพราะเราเป็นโค้ชแล้วก็ต้องติดตามว่าเขาวิจารณ์อะไรบ้าง แต่ก็ไม่ได้เอามาใส่ใจมากนัก ที่กลัวสุดคือกลัวจะไปกระทบกับเด็ก เพราะเด็ก 20 กว่าคน เราก็ร้องระแวกระวังทุกอย่าง โดยเฉพาะการไปสิงคโปร์ครั้งนี้ มีตำรวจสากลมาคุยเรื่องล้มบอล เขาจะมาเฝ้าอยู่ที่โรงแรม เพราะฉะนั้นถ้ามีเด็กเราไปคุยกับคนแปลกหน้าเมื่อไร เขาจับก่อนเลบ แล้วค่อยสอบสวน ดังนั้นเราจึงกังวลในเรื่องเหล่านี้มากกว่า

แล้วโดยส่วนตัวให้ค่ากับบุคคลเหล่านี้ขนาดไหน?

จะให้ทำไงได้ เพราะคนเหล่านี้ก็มีอยู่ทุกที่ แต่บางทีเขาก็ทำดีนะ อย่างในไทยแลนด์สู้สู้ มีการวิเคราะห์เกมว่าทีมเวียดนามเล่นอย่างนั้น พม่าเล่นอย่างนี้ ผมคิดว่าอย่างนี้ก็น่าชื่นชมเขาด้วย ผมไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นใคร แต่จากที่เคยเข้าไปดู 2-3 ครั้ง เหมือนเขามีทัศนคติที่ดีกับฟุตบอลไทย ซึ่งถือว่าน่าชื่นชม

ย้อนกลับไปตอนทำทีมชาติครั้งแรก ซีเกมส์ที่เนปิดอว์ เกิดขึ้นยังไง?

ตอนนั้นเป็นผมที่เข้าไปหาพี่โก้ ขอโอกาสบอกว่าอยากจะเข้ามาอยู่ในทีมชุดนี้ เพราะว่าถ้ามี ซิโก้ ซึ่งเป็นไอดอลของเด็กหลายๆ คน ก็น่าจะพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว แล้วเราเองก็อยู่ในวงการนี้มานานน่าจะช่วยได้บ้าง แล้วอีกอย่างในช่วงนั้นโค้ชหลายคนไม่กล้าเข้ามาทำ

แล้วตั้งแต่คบกันมาเคยทะเลาะกันบ้างไหม?

ทะเลาะกันในเกมฟุตบอลมากกว่า อย่างเช่น เราเสนอไปว่าอยากได้คนนั่น คนนี้มาร่วมทีม เขาก็รับฟังบ้าง ไม่รับฟังบ้าง บางครั้งเราก็ต้องมีวิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็น เพราะฟุตบอลมันไม่ใช่การเออออห่อหมกกันไปซะทุกอย่าง

อีกหนึ่งประเด็นที่พูดถึงมากคือสปิริตของนักเตะชุดนี้ โดยเฉพาะ "อาทิตย์ ดาวสว่าง" ที่ได้รับคำชื่นชมในเรื่องการควบคุมอารมณ์ มีการพุดคุยกับนักเตะอย่างไรบ้างถึงได้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีแบบนี้?

จริง ๆ ผมกับ เจ้าแบ็ค เราคุยกันมานานแล้วตั้งแต่ซีเกมส์ที่ เนปิดอว์ ช่วงเก็บตัวที่เชียงใหม่ เขาก็เป็นคนใจร้อน เข้าสกัดหนักเพื่อนร่วมทีมโดยตลอด ผมก็เรียกเขามาคุยในห้องแบบตัวต่อตัว เพราะผมก็นักเลงคนหนึ่งเหมือนกันแหละ ผมคุยกับเขาว่า "คุณเคยเห็นไหม รุ่นพี่คุณหลายคนเลือดร้อนแล้วไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย เพราะฉะนั้นถ้าคุณยังทำอย่างนี้อยู่อนาคตฟุตบอลของคุณไปไม่ไกลแน่" พอจากนั้น เขาก็รับฟังแต่จะทำตามหรือเปล่าเราก็ไม่รู้

แต่พอถึงซีเกมส์ที่ เนปิดอว์ เขาก็มาเสียใบเหลือในนัดสุดท้ายแค่นั้นเอง หรือซีเกมส์ ครั้งล่าสุดก็เหมือนกัน ในรอบรองที่เจอกับอินโดฯ เราก็เลยมาเห็นว่า เจ้าแบ็ค พอมาเล่นทีมชาติในเรื่องของความแข็งแกร่งด้านจิตใจดีขึ้นมาก ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นพัฒนาการของเขานะ ตอน ซูซูกิ คัพ ก็เห็นเหมือนกัน เพราะฉะนั้นก็เลยคิดว่า เอ๊ะ! อาทิตย์ เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย ตอนนี้บอกได้เลยว่าในเรื่องของสปิริต คนสิงคโปร์เขาปรบมือให้ ที่นั่นเขาดูและเชียร์ทีมไทยมากกว่าเชียร์ทีมชาติตัวเองเสียอีก เพราะอย่างนักฟุตบอลสิงคโปร์เขาเตะคู่แข่งตลอด แต่ของเราก้าวขึ้นไปขั้นหนึ่งแล้ว ต้องชื่นชมทุกคนด้วยที่มีจิตใจที่เป็นสุภาพบุรุษ


ได้ข่าวว่าพี่โก้เคยเรียกไปเตือนเรื่องให้ความสนิทสนมกับนักเตะมาเกินไป เรื่องนี้เป็นมายังไง?

อย่างที่บอกว่าสไตล์โค้ชแต่ละคนไม่เหมือนกัน ของผมชอบคลุกลคีกับเด็ก อยากรู้ว่าวันนี้พวกเขารู้สึกยังไง พ่อแม่ไม่สบาย ทะเลาะกับแฟน เรื่องพวกนี้เราก็ต้องเขาไปดูด้วย จะไปรอหน้างานอย่างเดียวมันก็คงไม่ได้ ก็ยอมรับว่าเคยโดนเตือน แต่บางทีก็ทำไม่ได้นะ เพราะนี้มันนิสัยคนเราเป็นโค้ชคนละสไตล์ ผมอยากดูภาพรวมของเขาด้วย ไม่ใช่จะมาดูแค่เรื่องฟุตบอลอย่างเดียว

ให้ความสนิทสนมกับนักเตะขนาดนี้ และช่องว่างหรือระยะห่าทงี่นักเตะควรรู้คือตรงไหน?

เราก็ต้องเอาตัวเองไปเป็นบรรทัดฐานด้วยว่า พี่จริงจังมากนะ เพราะฉะนั้นนอกเวลาเล่นได้ แต่เวลาเราซ้อมจริงจังในเรื่องของแทคติกจะซีเรียส ถือว่าขอกันเลย เพราะผมเป็นคนที่ซ้อมบอลใช้เวลาน้อย แค่ชั่วโมงเดียว แต่ในช่วง 15-20 นาที ที่ซ้อมการเข้าทำ อยากให้น้อง ๆ ตั้งใจ เพราะเวลาอยู่ในสนามสถานการณ์จริง เขาก็เอาสติของเขาตอนนั้นมาใช้

ถ้าเทียบกับทีมชั้นนำของเอเชีย คิดว่าเราอยู่ในระดับไหน?

ถ้าในทีมชาติชุดใหญ เรายังไม่มีเวทีประลองที่พอจะเห็นภาพได้ แต่กับชุดยู-23 ในเอเชียนเกมส์ ที่ อินชอน เราสามารถเทียบชั้นกับญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อิรัก, จอร์แดน ได้ ถ้าเราทำกันดี เด็กมีความพร้อม ผมว่ามีสิทธิ์เฮในโอลิมปิค ครั้งนี้

การประชุมแบ่งงานล่าสุด มีส่วนหน้าที่รับผิดชอบอะไรบ้างในทีมชุด ปรีโอลิมปิค?

โดยหลัก ๆ แล้วคือเป็นตัวช่วยของพี่โก้ ซึ่งผมมองก็ดีนะ เพราะเราจะได้โฟกัสไปว่า นักเตะที่ลงทะเบียนได้ใหม่ 50 คน เราต้องไปหาดาวเด่นเข้ามาเสริม แต่จริง ๆ มีในใจแล้วประมาณ 20 กว่าคน ทำให้สามารถมุ่งสมาธิไปได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องพะวงอะไร ก็โอเคที่แบ่งงานกันชัดเจน

หน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบประจำตอนนี้มีอะไรบ้าง?

ตอนนี้เป็นอาจารย์ระดับ 5 ประจำโรงเรียนช่าง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งผู้ใหญ่เห็นว่าเราจบมาทางรัฐศาสตร์ ก็เลยให้มาสอนวิชาหน้าที่พลเมือง ซึ่งได้เอาประสบการณ์มาแชร์ให้กับนักเรียนซึ่งจะขึ้นมาเป็นพนักงานต่อไป

จัดการอย่างไรเพื่อไม่ให้งานประจำด้านการสอน กับการเป็นโค้ชฟุตบอลทีมชาติมีผลกระทบ?

คือจริงงานสอนมันมีเวลากำหนดที่ชัดเจน เพียงแค่ว่าถ้าตรงกับช่วงของการเก็บตัวทีมชาติ ก็จะเปลี่ยนให้อาจารย์ท่านอื่นมาสอนก่อน พอเราหมดหน้าทีมจากทีมชาติ ก็จะกลับมาสอนในส่วนที่เว้นว่างไป เพราะฉะนั้นในเรื่องของการงานที่เป็นอยู่ก็ไม่กระทบมากนัก

ต้นแบบกุนซือในดวงใจคือใคร?

ผมชอบ "เป๊ป กวาร์ดิโอลา" ของบาเยิร์น มิวนิก ไม่ใช่ว่าชอบเพราะหัวเหมือนกัน(หัวเราะ) แต่เพราะเขาลงไปเล่นกับนักเตะด้วย ไม่ใช่มายืนสั่งการนอกสนามคอยชี้นิ้วเพียงอย่างเดียว เพราะนักฟุตบอลบางครั้งมันต้องไปสอนกันตัวต่อตัว ซึ่งผมชอบนิสัยแบบนั้นมากกว่า

วางอนาคตของตัวเองในวงการฟุตบอลไว้อย่างไรบ้าง?

ตอนนี้ก็คงต้องมุ่งมั่นเกี่ยวกับการทำทีมปรีโอลิมปิกให้ดีก่อน ในช่วงเดือนมกราคม ปีหน้า เพราะตอนนี้ ต้องมองแบบช็อตต่อช็อต เพราะฟุตบอลมันไม่ใช่ของเราคนเดียว โค้ชเก่งๆ ก็มีเยอะ แค่ได้ทำหน้าที่ในส่วนเขาให้รับผิดชอบก็คงต้องทำอย่างเต็มที่

อยากฝากอะไรถึงแฟนบอลไทยในช่วงต่อจากนี้ไป?

อย่างที่บอกว่าตอนนี้กระแสฟุตบอลมันแรง เพราะฉะนั้นจะมีการเชียร์และความคาดหวังสูงตามมาด้วย แต่ฟุตบอลมันมีแพ้ มีชนะ ถ้าขอบทีมชาติไทยก็ตามเชียร์เลย ไม่ใช่พอแพ้ก็ไม่เอาแล้วถอดใจ อยากให้มาสนับสนุนนักเตะเรามาก ๆ อยากฝากแฟนบอลด้วยว่าเป็นกำลังใจให้ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยต่อไปด้วย

นั้นคือเรื่องราวเพียงเสี้ยวชีวิตหนึ่งของผู้ชายที่ชื่อ "โชคทวี พรหมรัตน์" ซึ่งต่อจากนั้นจะรับหน้าที่เป็นหนึ่งในฟันเฟืองคนสำคัญของทีมชาติไทย ที่จะพาทัพช้างศึกหนุ่ม กรุยทางสู่เป้าหมายให้การโลดแล่นบนมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาตอย่าง "โอลิมปิก 2016" ที่กรุงริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ในช่วงกลางปีหน้าได้หรือไม่ อยู่ที่แรงเชียร์และศรัทธาของแฟนบอลไทยทุกคน ที่จะช่วยสนับสนุนพวกเขาให้ถึงฝั่งฝันในอนาคตข้างหน้าต่อไป.





ที่มา http://www.thairath.co.th/content/509196

ยิ่งกว่านิยาย! “ลิสบอน” เซ็นเด็กอิเหนาเหยื่อสึนามิ-แข้งอุปถัมภ์ “โด้” ติดทีมยู19


"สปอร์ติ้ง ลิสบอน" ยอดทีมจากโปรตุเกส ได้แถลงข่าวเปิดตัว "มาร์ตูนีส" นักเตะดาวรุ่งชุด ยู-19 ชาวอินโดนีเซีย เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

สำหรับ มาร์ตูนีส ถือเป็นนักเตะที่ได้รับการอุปถัมภ์จาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงของทีม เรอัล มาดริด และอดีตนักเตะของลิสบอน หลังเจ้าตัวได้ประสบภัยสึนามิในปี 2004 จนแม่และพี่สาวทั้ง 2 คนเสียชีวิต

แต่ว่ามาร์ตูนีส ซึ่งตอนนั้นอายุเพียง 6 ขวบ กลับรอดชีวิตมาได้ ขณะลอยคออยู่บนต้นโกงกาง พร้อมกับสวมเสื้อทีมชาติโปรตุเกสหมายเลข 10 นานถึง 21 วัน ซึ่งทำให้เป็นข่าวใหญ่ในโปรตุเกสทันที

มาร์ตูนีสให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า จะต้องมีชีวิตรอดเพื่อกลับมาพบครอบครัว และเป็นนักฟุตบอลออาชีพให้ได้ ก่อนจะได้รับความช่วยเหลือจากโรนัลโด้ จนสามารถเข้ามาเป็นนักเตะเยาวชนของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ได้ในที่สุด

"สโมสรแห่งนี้ทำให้ความฝันเป็นจริง และตื่นเต้นมากทีได้รับโอกาสตรงนี้" มาร์ตูนีส กล่าว









ที่มา http://sport.sanook.com/156863/

สาวไทยตบแหลก! ไล่บี้เซอร์เบีย 3-2 เซต ประเดิมชัยลูกยาง WGP


ทีมนักตบสาวไทยฮึดสู้ เร่งเครื่องกู้สถานการณ์ใน 2 เซตสุดท้าย ไล่แซง เซอร์เบีย ไปอย่างสนุก 3-2 เซต ประเดิมชัยนะ ในศึกวอลเลย์บอลหญิงเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2015 ได้สำเร็จ....

การแข่งขันศึกวอลเลย์บอลหญิง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2015 กรุ๊ป 1 กลุ่มเอ นัดแรก ที่สนามอินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก ทีมชาติไทย อันดับที่ 12 ของโลก พบกับ เซอร์เบีย อันดับที่ 8 ของโลก

ในเกมนี้ 6 ผู้เล่นตัวจริง ของทีมชาติไทยประกอบด้วย ปลื้มจิตร์ ถิ่นขาว, วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์, นุศรา ต้อมคำ, อรอุมา สิทธิรักษ์, อัจฉราพร คงยศ และ วรรณา บัวแก้ว

ขณะที่ เซอร์เบีย ประกอบไปด้วย มาย่า ซาวิช, มาร์ตา เดอร์ปา, มีนา โปโปวิช, ทิยาน่า มาเลสเซวิช, สลาดยานา เมียร์โควิช และ ซูซานา เซวิช

เริ่มเกมในเซตแรก เป็นฝ่ายทีมนักตบสาวไทยที่ออกตัวได้อย่างร้อนแรง ออกนำไปก่อน 5-0 จากนั้นไทยยังคงรักษาระยะห่างของเกมเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง หนีห่างเป็น 14-6 และปิดเซตที่คะแนน 25-17 ขึ้นนำ 1-0 เซต

เปิดฉากในเซตที่ 2 เกมของทีมนักตบสาวเซอร์เบีย เริ่มกลับมาเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น บวกกับความผิดพลาดในการรับเสิร์ฟบอลแรก ทำให้ เซอร์เบีย เอาชนะไปได้ในที่สุด 25-16 ตีเสมอเป็น 1-1 เซต

จากนั้นเซตที่ 3 ทีมสาวไทยเริ่มกลับมาสู่เกมอีกครั้งขึ้นนำห่างไปถึง5 แต้มในช่วงกลางเซต แต่แล้วในช่วงท้ายเกม ทีมสาวไทยเริ่มรับบอลแรกไม่เข้าจุด ปล่อยให้เซอร์เบีย ไล่ตามตีเสมอมาเป็น 23-23 ก่อนจะแซงเอาชนะไปได้ 23-25 แซงขึ้นนำ 1-2 เซต


ในเซตที่ 4 ถึงแม้ว่าไทยจะขึ้นนำไปก่อน 8-4 ในช่วงแรก แต่จังหวะผิดพลาดของก็ยังไม่ดีขึ้น ทำให้นักตบสาวจากเซอร์เบีย ทำแต้มไล่จี้ ขึ้นนำเสมอกันในช่วงท้ายเซต ก่อนที่สาวไทยจะร่วมใจกัน ฮึดแซงเข้าป้ายเอาชนะไปได้ในที่สุด 25-22 ตีเสมอเป็น 2-2 เซต ต้องไปชี้ชตะกันในเซตสุดท้าย

เซตที่ 5 เป็นฝ่าย เซอร์เบีย ออกนำไปก่อน 5-3 แต่สาวไทยไม่ยอมแพ้ ไล่ตีเสมอมาเป็น 5-5 จากนั้นแต้มเบียดกันมาโดยตลอด ก่อนที่สุดท้าย ทีมสาวไทยจะเอาชนไปได้ 15-11

ทำให้จบเกม ทีมนักตบสาวไทย เบียดเอาชนะ เซอร์เบีย 3-2 เซต เก็บชัยประเดิมสนามเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2015 ได้สำเร็จ โดยในนัดต่อไป ไทย จะพบกับ ญี่ปุ่น ในวันเสาร์ที่ 4 กรกฎคม เวลา 16.30 น.




ที่มา http://www.thairath.co.th/content/509238

Thursday, July 2, 2015

เชียร์'ตบสาวไทย'เปิดซดเซอร์เบีย


ทีมลูกยางสาวไทยจัดทัพใหญ่ดวลเซอร์เบีย ศึกเวิลด์กรังปรีซ์ นัดแรกวันนี้ (3 ก.ค.) 7 สีถ่ายทอดสด 16.00 น. สั่งเอาจริงเจอ 'ตั๋วผี' แจ้งความได้ทันที

                      นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุมและสัมภาษณ์ทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง "เวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2015" สัปดาห์ที่ 1 กลุ่มเอ ที่โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม โดยการแข่งขันมีระหว่างวันที่ 3-5 กรกฎาคมนี้ ที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก ทีมสาวไทยจะลงแข่งขันวันที่ 3 กรกฎาคม พบ เซอร์เบีย เวลา 16.00 น., วันที่ 4 กรกฎาคม พบ ญี่ปุ่น เวลา 16.30 น., วันที่ 5 กรกฎาคม พบ บราซิล เวลา 16.30 น. และมีการถ่ายทอดสดทางช่อง 7 สี, Bugaboo.tv และเอสเอ็มเอ็มทีวี

                      "โค้ชอ๊อต" นายเกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร เฮดโค้ชลูกยางสาวไทย กล่าวว่า นัดแรกกับเซอร์เบียถือว่าหนัก เซอร์เบียมีผู้เล่นชุดที่ได้อันดับ 3 ยูโรเปี้ยนเกมส์ และเปลี่ยนผู้เล่นบางคน แต่ทีมไทยเตรียมรับมือไว้แล้ว ตอนนี้ทุกคนมีสภาพร่างกายและจิตใจดี รวมถึงภาพรวมของเทคนิค แท็กติกก็ดีขึ้นด้วย ทั้ง 3 นัดที่ลงแข่งขันอยากจะเอาชนะให้มากที่สุด แม้ไม่ใช่งานง่ายที่จะชนะทีมชั้นนำทุกทีม แต่สิ่งที่นักกีฬาจะได้คือประสบการณ์จากการพบทีมระดับเวิลด์คลาส การเล่นในบ้านได้เปรียบเพราะไม่ต้องปรับสภาพร่างกาย โดยนัดแรกกับเซอร์เบีย อยากจะเอาชนะให้ได้

                      นายสมพร กล่าวว่า ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว มีการนำวิดีโอชาลเลนจ์ ราคาเป็นล้านบาทมาใช้เพื่อป้องกันจังหวะที่ลูกก้ำกึ่ง แต่ละทีมสามารถขอดูได้เซตละ 2 ครั้ง เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้การแข่งขัน โดยสมาคมได้จัดซื้อกล้องมาจากอิตาลีมูลค่ากว่า 1,000,000 บาทมาใช้เป็นครั้งแรกในไทย กล้องนี้สามารถนำไปใช้ในการแข่งขันฟุตบอล เทนนิส ได้ด้วย หากมีสมาคมใดสนใจสมาคมยินดีให้เช่ายืม

                      นายกสมาคมลูกยางไทยกล่าวต่อว่า มีความกังวลมากเรื่องการขายบัตรเข้าชมการแข่งขันเกินราคา สมาคมได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร หน่วยรักษาความปลอดภัยกว่า 100 นายเข้ามาดูแลและสอดส่องผู้ที่ขายบัตรเกินราคา ใครเจอแจ้งความได้เลย ส่วนใครที่ซื้อบัตรไม่ได้ ก็ต้องขอโทษด้วย เนื่องจากจำนวนที่นั่งในสนามมีจำกัดมาก แต่สมาคมได้จัดจอยักษ์ไว้บริเวณใกล้สนามให้แฟนๆ ได้ร่วมเชียร์อย่างใกล้ชิด โดยในอนาคตอาจจะย้ายไปจัดที่เมืองทองธานี และเพิ่มราคาบัตรเข้าชมการแข่งขัน

                      ด้าน แบรงค์โก โควาเซวิค ผู้ฝึกสอนทีมเซอร์เบีย กล่าวว่า แม้ปีนี้ทีมเซอร์เบียได้เหรียญทองแดงชิงแชมป์ยุโรป แต่เวิลด์กรังด์ปรีซ์ สัปดาห์แรก ล้วนเป็นทีมที่แข็งแกร่ง เพราะฉะนั้นจะพยายามทำให้ดีที่สุด ส่วน มานาเบะ มาซาโยชิ ผู้ฝึกสอนทีมญี่ปุ่น กล่าวสั้นๆ ว่า ดีใจที่ได้กลับมาเล่นในประเทศไทยอีกครั้ง ปีนี้ทีมมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเสริม และจะสู้เต็มที่ ขณะที่ โจเซ โรแบร์โต ลาเกส กิมาเรส ผู้ฝึกสอนทีมบราซิล กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาเยือนเมืองไทยเป็นครั้งที่ 3 ทีมที่เข้าแข่งขันมีความแข็งแกร่งมาก เพราะฉะนั้นทีมบราซิลจะทำให้ดีที่สุด


ลูกยางหนุ่มซิวชัยมหาวิทยาลัยโลก

                      2 ก.ค. 58  การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ครั้งที่ 28 ที่เมืองกวางจู ประเทศเกาหลีใต้ นักกีฬาไทยมีคิวแข่งในประเภทวอลเลย์บอลทีมชาย ซึ่งทีมไทยประเดิมสนามนัดแรก รอบแรก กลุ่ม บี เจอกับสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนที่นักตบไทยจะผนึกกำลังต้อนชนะคู่แข่ง 3 เซตรวด (25-23, 25-20, 25-21) หลังการแข่งขัน "โค้ชยุ่น" น.ต.มนต์ชัย สุภจิรกุล หัวหน้าผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลไทย กล่าวว่า นัดแรกทีมทำได้ดี แม้เซตแรกจะยังไม่เข้าขากันมากนัก แต่จากนั้นทุกคนเริ่มมั่นใจและเล่นได้ดีขึ้น ส่วนนัดต่อไปที่จะเจอกับแคนาดาเชื่อว่าสู้ได้เพราะไม่เสียเปรียบรูปร่างและแท็กติกไทยดีกว่า

                      จากนั้นในช่วงบ่ายมีพิธีเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสาที่หมู่บ้านนักกีฬา นายปรีชา ประยูรพัฒน์ หัวหน้านักกีฬาไทย นำทีมวอลเลย์บอลสาวไทยและนักว่ายน้ำร่วมพิธี โดยธงชาติไทยถูกเชิญขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมกับกาตาร์ เลบานอน มาซิโดเนีย เบลารุส ฮ่องกง อุรุกวัย ศรีลังกา

                      นายปรีชา กล่าวว่า ภาพรวมของโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางหรือ “เมอร์ส” ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะคณะแพทย์ของสหพันธ์กีฬามหาวิทยาลัยโลก (ฟิซู) ที่เข้ามาดูแลเกี่ยวกับปัญหานี้ยืนยันแล้วว่าเกาหลีใต้สามารถควบคุมการแพร่กระจายของเมอร์สได้แล้ว สิ่งที่ยืนยันได้ว่าปลอดภัยจากเมอร์สแล้วคือนักกีฬา 143 ชาติได้มาร่วมแข่งขันอย่างคับคั่ง ถือว่าไม่ต่างจากในช่วงที่ไม่มีโรคระบาดในกีฬามหาวิทยาลัยโลก ส่วนความเป็นอยู่ของนักกีฬาถือว่าสบายมาก เพราะเจ้าภาพจัดที่พักและอาหารไว้เป็นอย่างดี

                      ส่วนนายสุรศักดิ์ ทรัพย์เพิ่ม ผู้จัดการทีมวอลเลย์บอลสาวไทย กล่าวถึงความพร้อมของสาวไทยที่จะลงประเดิมสนามนัดแรกพบ ซิมบับเว ในวันที่ 4 กรกฎาคม เวลา 16.00 น. (ตามเวลาไทย) ว่าหลังจากทีมลงฝึกซ้อมแล้วอาจยังมีจุดที่ต้องปรับบ้าง แต่คิดว่าจะพร้อมสำหรับการเจอน้องใหม่ที่ส่งแข่งขันครั้งแรกอย่างซิมบับเว แม้จะไม่มีข้อมูล แต่คิดว่ามาตรฐานของไทยดีกว่าจึงน่าชนะได้ไม่ยาก

                      ในส่วนของพิธีเปิดการแข่งขันจะมีขึ้นวันที่ 3 กรกฎาคม ที่สนามกวางจู เวิลด์คัพ สังเวียนฟุตบอลโลก 2002 โดยมีโคลด หลุยส์ กัลเลียง ประธานสหพันธ์กีฬามหาวิทยาลัยโลก (ฟิซู) เป็นประธาน เจ้าภาพใช้แนวคิดภาย "เธอคือแสงสว่าง" ที่แสดงว่าเยาวชนคือแสงไฟที่ส่องนำทางสู่อนาคต ในส่วนของนักกีฬาไทย มี "โด่ง" ยศพล วัฒนะ มือเซตวอลย์บอลทีมชาติไทยชุดแชมป์ซีเกมส์หนล่าสุดจาก ม.ศรีปทุม เป็นผู้ถือธงไตรรงค์นำคณะนักกีฬาไทยเข้าสู่สนาม ส่วนการแสดงมีแสง สี เสียงตระการตา จากคอนเสิร์ตของนักร้อง "เคป๊อป" อาทิ "บราวน์ อาย เกิร์ล" เกิร์ลกรุ๊ปสุดเซ็กซี่ รวมถึงการโชว์การบินผาดโผนของฝูงบิน "แบล็ค อีเกิล" ของกองทัพอากาศเกาหลีใต้ โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง





ที่มา http://www.komchadluek.net/detail/20150703/209074.html