เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 9 ก.ค. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สาวงามผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015 เดินทางไปทำกิจกรรมเก็บตัวที่ จ.อุบลราชธานี เป็นวันแรก โดยไม่มีผู้เข้าประกวดหมายเลข 26 น้องแวร์ซายน์ น.ส.นัธนันท์กานต์ หรี่จินดา เนื่องจากป่วยเป็นโรคสุกใสต้องพักรักษาตัวจนกว่าจะหายเป็นปกติ และมีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าสามารถกลับมาร่วมทำกิจกรรมกับกองประกวดได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเดินทางถึงจ.อุบลราชธานีในเวลา 08.15 น. สาวงามผู้เข้าประกวดได้รับความสนใจจากประชาชนในจังหวัดอย่างมาก ต่างมารอถือป้ายไฟเชียร์เหล่าสาวงาม โดยเฉพาะสาวงามตัวแทน จ.อุบลราชธานี ท่ามกลางสายฝนที่ตกโปรยปรายตลอดช่วงเช้าเหล่าสาวงามยังยิ้มสู้ร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่กองประกวดจัดไว้ให้อย่างไม่ย่อท้อ
โดยกิจกรรมวันแรกเริ่มต้นขึ้นเมื่อเหล่าสาวงามเดินทางถึงศาลาจตุรมุข ทุ่งศรีเมือง สาวงามผู้เข้าประกวดต่างนุ่งชุดผ้าซิ่นสวยงาม ไหว้ศาลหลักเมือง พร้อมร่วมขบวนรำตังหวายและฟ้อนกล้องตุ้ม การแสดงที่สำคัญของ จ.อุบลราชธานี ก่อนเข้าสักการะอนุสาวรีย์ท้าวคำผง และเคารพอนุสรณ์แห่งคุณความดีซึ่งทหารพันธมิตรสร้างไว้หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ทั้งนี้ระหว่างทำกิจกรรม น้องพลอย น.ส.พัชรฎา มณฑาทิพย์ หมายเลข 20 เกิดอุบัติเหตุหกล้มระหว่างก้าวลงบันไดจนลุกขึ้นเดินไม่ไหว กองประกวดต้องปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล
จากนั้นเหล่าสาวงามเดินทางต่อไปที่วัดสุปัฎนาราม วัดสำคัญของจังหวัด อุโบสถสร้างด้วยศิลปะไทย-ลาว ก่อนเดินทางไปร่วมแกะเทียนสลักซึ่งจะใช้ในขบวนแแห่เทียนพรรษาที่ชุมชนคนทำเทียน วัดบูรพา ในช่วงเย็นสาวงามทั้งหมดเดินทางไปร่วมพิธีบายศรีสู่ขวัญ และร่วมงานเลี้ยงต้อนรับอย่างเป็นทางการที่ โรงแรมสุนีย์แกรนด์
โดยมีนายประทีบ กีรติเรขา ผู้ว่าฯอุบลราชธานี เป็นประธาน ช่วงค่ำสาวงามทั้งหมดเข้าร่วมขบวนแห่เทียนจำลอง พร้อมรำดอกบัว และเวียนเทียนรอบเจดีย์ที่วัดหนองบัวในชุดไทยร่วมกับชาวบ้านกว่า 300 คน
น้องไข่มุก น.ส.วาริศา ศรีนุกูล อายุ 19 ปี หมายเลข 14 นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผยว่าเป็นครั้งแรกที่ได้มาเยือน จ.อุบลราชธานี ตื่นเต้นและสนุกมาก ประทับใจที่มีโอกาสร่วมแกะเทียนเพื่อใช้ในประเพณีแห่เทียนพรรษา ประเพณีสำคัญของ จ.อุบลราชธานี
ด้านน้องอุ้ม น.ส.ชนนี ห่วงญาติ อายุ 23 ปี หมายเลข 8 แอร์โฮสเตสสาวจาก จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ได้สัมผัสวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวอุบลราชธานีซึ่งต่างกับ จ.บุรีรัมย์ แต่ที่เหมือนกันคือการต้อนรับผู้มาเยือนด้วยความอบอุ่นเหมือนลูกหลาน
ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1436437582
0 comments:
Post a Comment