เมื่อเวลา15.15 น.วันที่ 8 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสนช.ก็ได้เข้าสู่การแถลงเปิดสำนวนการถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา ออกจากตำแหน่งของ หลังจากที่ได้เปิดโอกาสให้นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภาชี้แจงแล้วเสร็จ โดยนายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช.ได้ชี้แจงข้อกล่าวหาว่า ก่อนที่นายสมศักดิ์ จะบรรจุวาระร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม ที่นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส. ผู้เสนอญัตติได้ขอแก้ไขรัฐธรรมนูญได้มีนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงแก้ไขหลักการเพิ่มเติมไปจากร่างฉบับเดิม แม้นายสมศักดิ์ จะอ้างว่าเข้าใจโดยสุจริต ว่า สามารถกระทำได้โดยได้ถามเจ้าหน้าที่แล้วก็ไม่อาจรับฟังได้ เป็นการกระทำที่ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
ขณะเดียวกันมีพฤติการใช้อำนาจไม่ชอบโดยร่วมกันกับนายนิคม ไวยรัชพานิช สลับกันทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมโดยการตัดสิทธิ์ผู้เสนอคำแปรญัตติและผู้สงวนความเห็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาส.ว. ในวาระ 2 ไม่ให้อภิปราย เป็นใช้ดุลพินิจตัดสิทธิการทำหน้าที่สมาชิกรัฐสภาเสียงข้างน้อยขัดต่อหลักนิติธรรม จึงถือว่า มีพฤติการณ์ที่ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญพ.ศ.2550 มาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 125วรรคหนึ่งและวรรคสอง และมาตรา 291 อันเป็นมูลเหตุให้ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญพ.ศ.2550 มาตรา 270 และมาตรา 274 ประกอบพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่2) พ.ศ.2554 มาตรา 56 มาตรา 58มาตรา 61 และมาตรา 62
จากนั้นนายพรเพชรได้แจ้งว่า นายสมศักดิ์ ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้เดินทางมาหรือมอบหมายตัวแทนมาชี้แจงแสดงว่าไม่ประสงค์ที่จะแถลงคัดค้านข้อกล่าวหาจึงเป็นจบการแถลงการเปิดคดีของคู่กรณี ทั้งนี้นายพรเพชรได้แจ้งกำหนดให้ตัวแทนป.ป.ช.และนายสมศักดิ์ยื่นคำแถลงปิดคดีต่อสนช.ภายในวันที่ 20 ม.ค. และสมาชิกที่สามารถยื่นญัตติประเด็นข้อซักถามได้ถึงวันที่ 12 ม.ค. และตั้งคณะกรรมาธิการ เพื่อทำหน้าที่รวบรวมประเด็นซักถามจากสนช. จำนวน 9 คนโดยใช้ชุดเดียวกันกับคดีนายนิคม พร้อมกันนี้โดยได้นัดประชุมสนช.เพื่อให้การซักถามทั้ง2 คดีในวันที่ 15 ม.ค. เวลา 10.00 น.
เสนอข่าวโดย: dailynews.co.th
0 comments:
Post a Comment