ยิงสาว 19 ดับหน้าบ้าน คาดฝีมือตำรวจรุ่นพ่อที่มาติดพัน

(10 ม.ค.) ตำรวจรับแจ้งว่า เกิดเหตุยิงกันอยู่ที่บ้านเลขที่ 31/2 หมู่ 2 บ้านสะอาด ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ตายเป็นหญิงทราบชื่อว่า น.ส.อุไรรัตน์ หรือ น้องเหมย อายุ 19 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืน .357 ลูกโม่ เข้าที่ศีรษะ 1 แผล และข้างลำตัวด้านซ้ายอีก 1 แผล สวมใส่เสื้อยืดสีดำแขนสั้น กางเกงขาสั้นสีฟ้าลายจุด ข้างศพพบโทรศัพท์ไอโฟน 5 ตกอยู่ข้างศพ ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณประตูทางเข้าบ้านมีแคร่ไม้ไผ่ 1 ตัว มีเหล้า 1 ขวด โซดา 1 ขวด แก้ว 1 ใบ วางอยู่

จากการสอบถามนางสำลี ย่าของผู้เสียชีวิต เล่าว่า หลานสาวมีพ่อแต่เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนแม่ไปมีสามีใหม่ ตนจึงนำมาเลี้ยงดู ต่อมาได้มี นายตำรวจยศ ร.ต.ต. อายุประมาณ 60 ปี มาติดพันหลานสาวได้ประมาณปีกว่า เนื่องจากภรรยาของตำรวจคนนั้น เสียชีวิตไปนานแล้ว

ผู้เป็นย่าเล่าว่า ตำรวจนายนี้ซื้อรถจักรยานยนต์ และโทรศัพท์มือถือให้น้องเหมย มีการชวนน้องเหมยไปเที่ยวด้วยกันตลอด บางครั้งให้เงินใช้วันละ 500-1,000 บาท

ต่อมา ร.ต.ต.กับน้องเหมยเริ่มทะเลาะกันบ่อย สาเหตุจากความหึงหวง เพราะเห็นหลานสาวของตนไปเที่ยวกับเพื่อนชายวัยเดียวกันในงานบุญ ฝ่ายร.ต.ต.ก็ติดตามไปถึงในงาน เมื่อพบหน้าก็เข้าไปกระชากผม และตบตีน้องเหมยต่อหน้าเพื่อนชาย และยังตามมาตบตีต่อที่บ้านอีก ตนต้องห้ามเอาไว้ และห้ามนายตำรวจมาคบหากับน้องเหมยอย่างเด็ดขาด

ก่อนเกิดเหตุ ตนจึงออกจากบ้านไปขายปลาที่ตลาดบ้านสะอาดตอนตี 4 ส่วนน้องเหมยยังนอนอยู่ในบ้าน จนมีเพื่อนบ้านมาบอกว่า น้องเหมยถูกยิงตายอยู่ที่หน้าบ้าน โดยไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นใคร เชื่อว่าคงเป็น ร.ต.ต.คนดังกล่าว เป็นคนยิงหลานสาวตาย เพราะถูกตนกีดกันไม่ให้คบหาแบบคนรัก

เพื่อนบ้านผู้ตายเล่าว่า เมื่อประมาณตี 5 มีชายคนหนึ่งอายุประมาณ 60 ปี ขับรถยนต์ปิคอัพสี่ประตู สีบรอนซ์ มาที่บ้านของนางสำลี แล้วตะโกนเรียกให้น้องเหมยออกมาจากบ้านมาพบ จากนั้นก็เอาเหล้าลงมาจากรถนำไปวางไว้ที่แคร่ไม้ไผ่ เทเหล้าเต็มแก้วชวนให้กินเหล้า แต่น้องเหมยไม่ยอมกิน ทำให้มีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง แล้วก็มีเสียงปืนดังขึ้นสามนัด จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ถือปืนเดินไปขึ้นรถยนต์แล้วขับหลบหนีออกไปจากหมู่บ้านทันที

ขณะนี้ตำรวจชุดสืบสวนได้ออกติดตามหาตัว ร.ต.ต.ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย เพื่อมาสอบปากคำ ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ขอนแก่น เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุมาตรวจสอบ และลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ส่วนศพมอบให้มูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศนำไปให้แพทย์ผ่าพิสูจน์การตายที่ รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป




อ่านรายละเอียดที่
 นำเสนอข่าวโดย: news.sanook.com