เมื่อวันที่ 8 ม.ค.เวลา13.20 น.ได้เริ่มขั้นตอนแถลงเปิดสำนวนของฝ่ายป.ป.ช. โดยนายวิชา มหาคุณกรรมการป.ป.ช. แถลงเปิดคดีว่า แม้รัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 57 จะไม่ได้ระบุเรื่องการถอดถอนไว้ แต่ในมาตรา 5 เปิดให้มีการวินิจฉัยให้เป็นไปตามประเพณีการปกครอง และมาตรา 11 ให้อำนาจสนช.เป็นตัวแทนปวงชนชาวไทยไว้ ดังนั้นกระบวนการถอดถอนจึงต้องเดินไปตามหลักการเมืองการปกครองที่เคยมีส่วนข้อห่วงกังวล ว่า การถอดถอน ทำให้กระทบต่อการปฏิรูป และการปรองดอง นั้นตนเห็นตรงข้ามว่า กระบวนการถอดถอนจะทำให้สังคมได้รับความเชื่อมั่น ศรัทธา ทำให้การปฏิรูปประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อยจากการถูกปกครองโดยผู้มีจริยธรรมและคุณธรรมระดับสูงเหนือกว่าคนอื่นทั้งหมดเป็นหลักเริ่มต้นให้ประเทศใสสะอาด ปราศจากสิ่งที่ประชาชนไม่ไว้วางใจทั้งนี้ข้อหาของนายนิคม คือ การตัดสิทธิอดีตส.ส.ไม่ให้อภิปรายตามที่ได้ขอแปรญัตติและสงวนความเห็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาส.ว. ในวาระ 2 โดยมิชอบ
นายวิชา กล่าวว่า จากการไต่สวน พบว่า นายนิคม ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุม แก้ไขรัฐธรรมนูญเรี่องที่มาส.ว. ในวาระ 2 มาตรา 5 มาตรา 7 และมาตรา 11 ได้ใช้อำนาจสั่งปิดการอภิปรายตามที่ญัตติสมาชิกเสนอมาทั้งที่ยังมีผู้ขอแปรญัตติและเสนอความเห็นเหลืออีกจำนวนมากแม้จะมีสมาชิกทักท้วงจำนวนมาก แต่นายนิคม ยืนยัน สั่งปิดอภิปรายฯ เพื่อให้มีการลงมติในหลายครั้ง เป็นการตัดสิทธิไม่ให้สมาชิกอภิปรายแสดงความเห็น ซึ่งป.ป.ช.เห็นว่า การใช้ดุลยพินิจปิดอภิปราย โดยไม่ฟังเสียงข้างน้อยเป็นการรวบรัด ใช้อำนาจโดยมิชอบ เอื้อประโยชน์ต่อเสียงข้างมากขัดต่อหลักนิติธรรม ที่ทุกหน่วยงานต้องปฏิบัติตาม
อ่านรายละเอียดที่
เสนอข่าวโดย: dailynews.co.th
0 comments:
Post a Comment