แร้งยักษ์หนีหนาวหมดแรงตกลงทุ่งนา

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 ม.ค. ที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองปลักพระยา และเขาระยาบังสา ถนนสายบ้านฉลุง-ละงู หมู่ 14 ต.ฉลุง อ.เมือง จ.สตูล นายสาคร วุ่นนุรักษ์ อายุ 55 ปี และ นายเชษฐ์ชัย สุวรรณรัตน์ เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองปลักพระยา และเขาระยาบังสา ร่วมกันนำนกอีแร้งขนาดใหญ่ สีน้ำตาล ใส่กรงเหล็กนำขึ้นรถยนต์เพื่อไปส่งมอบให้กับศูนย์เพาะสัตว์ป่าโตนงาช้าง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ดูแลรักษา หลังจากมีชาวบ้าน บ้านสายควน หมู่ 7 ต.ท่าแพ อ.ท่าแพ พบนกอีแร้งตัวดังกล่าวบินมาตกอยู่กลางทุ่งนาในชุมชน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิกูภัยร่มไทรจังหวัดสตูล จับตัวมาส่งมอบให้เจ้าหน้าที่หนองปลักพระยาและเขาระยาบังสา จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า นกอีแร้งที่จับได้เป็นนกอีแร้งหิมาลัยสีน้ำตาล ปีกกว้าง 2.5 เมตร ลำตัวยาววัดจากหัวจรดหาง กว่า 1 เมตร

สำหรับนกอีแร้งหิมาลัยสีน้ำตาล จากข้อมูลบนเว็บไซต์สารานุกรมเสรี (วิกิพีเดีย) ระบุว่า เป็นอีแร้งที่มีขนาดใหญ่รองมาจากอีแร้งดำหิมาลัย สามารถพบได้แถบเทือกเขาหิมาลัย และกระจายพันธุ์อยู่ตามแถบเทือกเขาของภูมิภาคเอเชียกลางไปจนถึงจีน โดยปกติจะอาศัยอยู่ในพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล 600-2,500 เมตร เวลาบินหากินจะบินไปจนถึงระดับ 4,500 เมตร อีแร้งสีน้ำตาลหิมาลัยไม่ใช่นกประจำประเทศไทย แต่เป็นนกอพยพที่ฤดูหนาวจะบินลงใต้มาอาศัยอยู่ยังประเทศไทย เพราะมีอากาศที่อบอุ่นกว่า และเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 อย่างไรก็ตามเชื่อว่านกอีแร้งตัวนี้น่าจะบินอพยพหนีหนาวมาจนหมดแรง ก่อนตกลงที่กลางทุ่งนาบ้านสายควน โดยเจ้าหน้าที่จะเร่งทำการปฐมพยาบาล เพื่อปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติต่อไป..

นำเสนอข่าวโดย: dailynews.co.th