Saturday, February 14, 2015

ตระกูลชินวัตร เลือกและไว้ใจ : นพดล ศรีทวีกาศ/จีรพงษ์ ประเสริฐพลกรังรายงาน

ภาพ พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย ผู้ช่วยนายเวร (สบ.4) รองผบ.ตร. หรือ "สารวัตรหนุ่ย" ที่ปรากฏอยู่ในขบวนรถของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในขณะที่ถูกทหาร-ตำรวจตั้งด่านตรวจที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้ชื่อของ พ.ต.อ.วทัญญู โดดเด่นขึ้นมาอีกครั้ง ภายใต้การถูกวิพากษ์วิจารณ์ เพราะทุกครั้งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปรากฏตัวในที่สาธารณะ จะต้องมีภาพของ พ.ต.อ.วทัญญู ทำหน้าที่ยืนอยู่ด้านหลังคอยติดตามอารักขาดูแลความปลอดภัยทุกครั้ง 
              เส้นทางชีวิตราชการ พ.ต.อ.วทัญญู เริ่มจากนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 49 บรรจุครั้งแรกในกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งทำให้ได้มีโอกาสรู้จักมักคุ้นกับ พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งในกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน

              กระทั่งเมื่อ พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ได้โยกมาเป็น รองผบก.ส.3 ทำหน้าที่เกี่ยวกับการดูแลงานอารักขาบุคคลสำคัญ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมอารักขา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตอนนั้น พ.ต.อ.วทัญญู ก็ถูกเรียกตัวเข้ามาเป็นหนึ่งในทีมอารักขา

              แต่ภายหลังเกิดรัฐประหาร ปี 2551 พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.ในขณะนั้น ได้เซ็นคำสั่งโยกย้ายให้พ.ต.อ.วทัญญู ไปเป็น สว.สป.สภ.กรงปินัง จ.ยะลา แต่ปรากฏว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร.ในขณะนั้นได้มีคำสั่งขอตัวให้ พ.ต.อ.วทัญญู มาช่วยราชการในสำนักงาน รองผบ.ตร. และทันทีที่ผลการเลือกตั้งปรากฏว่าพรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง พ.ต.อ.วทัญญูได้กลับเข้ามานั่งในตำแหน่ง สว.ฝขว.10 บก.ส.1 (บก.น.7) ทำหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัย "บ้านจันทร์ส่องหล้า"

              ต่อมา พ.ศ.2555 พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ผบ.ตร.ในขณะนั้นได้เซ็นคำสั่งแต่งตั้งนอกวาระให้ พ.ต.อ.วทัญญู ขยับขึ้นเป็น รองผกก.ในตำแหน่ง ผู้ช่วยนายเวร (สบ.3) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. ซึ่งการแต่งตั้งครั้งนั้นเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก เพราะเหลือระยะเวลาเพียงอีกแค่เดือนเศษก็จะถึงวาระการแต่งตั้งประจำปีแล้ว

              ถึงแม้ พ.ต.อ.วทัญญ จะได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยนายเวร พล.ต.อ.พงศพัศ แต่ปรากฏว่ายังคงทำหน้าที่เป็นทีมอารักขา น.ส.ยิ่งลักษณ์ เหมือนเดิม

              จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2556 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ในขณะนั้น ได้เซ็นคำสั่งแต่งตั้ง พ.ต.อ.วทัญญู อีกครั้ง เป็นถึงระดับผู้กำกับการ ในตำแหน่งผู้ช่วยนายเวร (สบ.4) ผบ.ตร. โดยใช้วิธียกเว้นกฎ ก.ตร. เฉพาะรายเนื่องจากอยู่ในตำแหน่งรองผกก.ไม่ครบ 2 ปี จึงยกเว้นหลักเกณฑ์

              เมื่อดูเส้นทางชีวิตราชการของ พ.ต.อ.วทัญญู เป็นไปในลักษณะอิงการเมืองมาโดยตลอด !

              กระทั่งล่าสุดเริ่มมีคำถามว่า ทำไม พ.ต.อ.วทัญญู ซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจต้องติดตามดูแล น.ส.ยิ่งลักษณ์ เรื่องนี้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกมาเปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีหนังสืออนุญาตให้ พ.ต.อ.วทัญญู ไปปฏิบัติหน้าที่ให้ความคุ้มครองดูแล ติดตามอดีตนายกฯ เนื่องจากสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกฯ ได้มีหนังสือขอผ่านทางกองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 ให้ไปช่วยปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย โดยให้เหตุผลว่า เป็นบุคคลสำคัญ ถึงแม้ว่าเมื่อพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ก็สามารถจะขอเจ้าหน้าที่ไปดูแลรักษาความปลอดภัยได้

              ทั้งนี้ การอนุมัติให้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว เป็นระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2557-24 สิงหาคม 2558 โดยยังคงรับเงินเดือนตามปกติ เป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งหลังจากหมดวาระคำสั่งขอตัวไปช่วยก็ถือว่าสิ้นสุดการทำงาน ตามระเบียบจะต้องกลับมาทำงานในตำแหน่งเดิม ส่วนจะมีการขอตัวไปอีกหรือไม่นั้น ต้องแล้วแต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะพิจารณาอีกครั้ง

              ทำไมตระกูล "ชินวัตร" ต้องเลือก "พ.ต.อ.วทัญญู" เท่านั้น แหล่งข่าวใกล้ชิดระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯ ได้ทำหนังสือมาถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการระบุเฉพาะเจาะจงเป็นรายบุคคลว่าต้องเป็น พ.ต.อ.วทัญญู ทำให้ พล.ต.อ.อดุลย์ ผบ.ตร.ในขณะนั้น เซ็นคำสั่งให้ พ.ต.อ.วทัญญู ไปช่วยราชการดูแลความปลอดภัย ทำให้เขาเปรียบเสมือนเป็นคนในครอบครัวตระกูลชินวัตรไปแล้ว

              เนื่องจากว่ามีความคุ้นเคยและอารักขามาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ตั้งแต่สมัยอดีตนายกฯ ทักษิณ อดีตนายกฯ สมชาย จนมาถึงอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ซึ่ง พ.ต.อ.วทัญญู ได้รับความไว้วางใจจากครอบครัวชินวัตร ทำให้ พ.ต.อ.วทัญญู มีบทบาทเด่นชัดต่อภาพลักษณ์ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นอย่างมาก

              หากมองย้อนไป ตลอดเวลา "292 วัน" ที่ "ยิ่งลักษณ์" นั่งในเก้าอี้นายกฯ จนถึงช่วงหลังจากยุบสภา บวกกับช่วงเวลาที่เดินสายหาเสียงในช่วงลงสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อเบอร์ 1 ของพรรคเพื่อไทยนั้น "สารวัตรหนุ่ย" ก็ติดตามอารักขาโดยตลอดในฐานะนายตำรวจคนสนิท

              โดยในส่วนของชื่อเรียก นอกจากเรียก "สารวัตรหนุ่ย" ที่เรียกกันติดปากแล้ว ก็มีอีกชื่อที่สื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาลส่วนหนึ่งและทีมข่าว สร.1 ซึ่งเป็นกลุ่มนักข่าวทุกสำนักติดตามทำข่าวนายกฯ เรียกชื่อเขาเป็นรหัสประจำตัวว่า "สองสี่"

              "สองสี่" มีภารกิจที่ติดตาม "นาย" มากกว่าหัวหน้าทีม รปภ.คนอื่นๆ คือ ภารกิจหลักทำหน้าที่ประสานชุดรักษาความปลอดภัยทั้งชุดปกติ ชุดล่วงหน้า ตำรวจท้องที่ ในการจัดระบบรักษาความปลอดภัยให้ "นาย" ในการเดินทางไปแต่ละครั้ง

              นอกจากนี้ ยังมีภารกิจรองลงไป "แต่จำเป็น" คือ ต้องทำหน้าที่ประสานสื่อมวลชนในบางครั้ง ในการประสานว่าจะให้ "นายหญิง" อยู่ตรงจุดไหน อย่างไร ตกลงเรื่องมุมกล้องตรงไหน รวมถึงจะยืนข้างหลัง "นายหญิง" ในช่วงที่สัมภาษณ์ และบางครั้งจะช่วยตัดบทเมื่อรู้สึกว่าสัมภาษณ์ยาวเกินไปหรือต้องรีบไปภารกิจ อื่น

              อีกงานที่สำคัญ คือ ยังจะต้องทำหน้าที่เป็นช่างภาพประจำตัวนายกฯ โดยมีอุปกรณ์ประจำตัวที่พกพาง่ายเป็นสมาร์ทโฟนของตัวเอง หรือไม่ก็กล้องคอมแพ็กขนาดเล็กที่มีความละเอียดสูง เพื่อนำภาพไปอัพลงเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรือทวิตเตอร์ ส่งให้ทีมงานของนายกฯ ให้ส่งต่อมายังสื่อมวลชนอีกทอดหนึ่ง ดังนั้น ในบางครั้งงานไหนที่สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพหรือวิดีโอไม่ได้ "สองสี่" จะจัดให้อย่างทั่วถึง ไม่ว่าสื่อนั้นจะต่างขั้วหรือไม่

              หลังจากนี้ คงต้องจับตาดูว่า เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมนี้มาถึง  ซึ่งครบกำหนดที่ ตร.อนุมัติให้ พ.ต.อ.วทัญญู ดูแลความปลอดภัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะมีการทำหนังสือขอตัวให้ พ.ต.อ.วทัญญู ยังอารักขาเหมือนเดิมหรือไม่ ?

ที่มา http://www.komchadluek.net/detail/20150214/201367.html

0 comments:

Post a Comment

Show Emoticons