‘เจ้ติ๋ม ทีวีพูล’พร้อม‘พีซทีวี’แห่ฟ้องกสทช.

‘เจ้ติ๋ม ทีวีพูล’ร้องศาลปค.ฟ้องกสทช.จ่าย700ล้าน ‘พีซทีวี-จตุพร’ฟ้องด้วย

            ที่ศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ วันที่ 30 มิ.ย.2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทไทยทีวี จำกัด โดย นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ ติ๋ม ทีวีพูล กรรการผู้มีอำนาจ ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลประเภทช่องรายการข่าวและสาระ ได้มอบหมายให้ นายสุชาติ ชมกุล ทนายความ ได้ยื่นฟ้อง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นผู้ถูกฟ้อง เรื่องกระทำการโดยมิชอบ ละเลยต่อหน้าที่ที่กฎหมาย ทำให้เกิดความเสียหาย กรณี กสทช.ละเลยต่อหน้าที่ตามที่แผนแม่บทกิจการวิทยุโทรทัศน์ กำหนด และผิดต่อ พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556ซึ่ง กสทช.ไม่ได้ดำเนินการตามแผนแม่บทที่วางไว้ ทั้งเรื่องการขยายโครงข่ายสัญญาณทีวีดิจิตอลที่ล่าช้า และการประชาสัมพันธ์

            โดย บจก.ไทยทีวี ผู้ฟ้อง ขอให้ศาล 1.มีคำพิพากษา เพิกถอนหนังสือ ของ กสทช.ผู้ถูกฟ้อง ฉบับลงวันที่ 28 พ.ค.58 เรื่องการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ งวดที่ 2 และหนังสือฉบับลงวันที่ 5 มิ.ย. 58 เรื่องการชำระค่าธรรมเนียม ใบอนุญาตรายปี และฉบับลง วันที่ 22 มิ.ย.58 เรื่องการขอยกเลิก การเป็นผู้รับอนุญาตให้ใช้คลื่นฯ และใช้ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ให้ใช้คลื่นความถี่ (ค่าประมูลคลื่นความถี่)

            2.ขอให้ศาลมีคำพิพากษาห้าม กสทช.ผู้ถูกฟ้อง ดำเนินการใดๆ เพื่อบังคับตามหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) ลงวันที่ 10 ก.พ.57 รวม 16 ฉบับ และให้ กสทช. ผู้ถูกฟ้อง คืนหนังสือค้ำประกัน ของธนาคารดังกล่าวให้ บจก.ไทยทีวี ผู้ฟ้องด้วย

            3.ขอให้ศาลพิพากษาให้ กสทช.ผู้ถูกฟ้อง คืนเงินค่าธรรมเนียม ใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ ทั้ง 2 ฉบับ ที่ บจก. ไทยทีวี ผู้ฟ้องได้ชำระไปแล้วเป็นเงินจำนวน 365,512,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ขอเงินดังกล่าวนับตั้งแต่วันฟ้อง จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น และให้ กสทช. ผู้ถูกฟ้อง ชำระค่าเสียหายจำนวน 713,828,282.94 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อไป ของเงินดังกล่าวนับตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ และ4.ขอให้ศาลมีคำสั่งให้การประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการธุรกิจระดับชาติ ของ กสทช. ผู้ถูกฟ้องเป็นโมฆะ

            นอกจากนี้ บจก. ไทยทีวี ผู้ฟ้อง ยังยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองกลาง กำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวระหว่างการพิจารณาคดีด้วย โดยขอให้ศาลมีคำสั่งให้ กสทช. ผู้ถูกฟ้องระงับการดำเนินการใดๆ ในการบังคับตามหนังสือค้ำประกัน 16 ฉบับ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งจนถึงที่สุด เนื่องจากหาก บจก. ไทยทีวีผู้ฟ้อง ต้องถูกบังคับตามหลักประกันดังกล่าวโดยศาล ไม่ได้มีคำสั่งคุ้มครองใดๆแล้ว บจก.ไทยทีวี ผู้ฟ้อง จะต้องถูกฟ้องร้อง เพื่อบังคับเอาหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งเป็นที่ดินที่ต้องของบริษัท และที่ดินอื่นอีกหลายแปลง ที่จะต้องถูกนำไปขายทอดตลาด ซึ่งหากภายหลังศาลจะมีคำพิพากษาให้ บจก. ไทยทีวี ผู้ฟ้อง ชนะคดีก็ยากที่จะเยียวยานำทรัพย์สินกลับคืนมาได้

            ขณะที่วันเดียวกัน นี้ บริษัท พีซ เทเลวิชั่น จำกัด ผู้ประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ช่องรายการ พีซทีวี (PEACE TV),นายจุตพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ในฐานะผู้ดำเนินรายการ “มองไกล” ซึ่งเผยแพร่ภาพและออกอากาศช่องรายการ พีซทีวี ทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00น. – 11.00น. ที่มีรูปแบบเป็นการนำเสนอข่าวการเมือง พร้อมผู้ดำเนินรายการและผู้ประกาศข่าวในรายการต่างๆ ของช่องรายการ พีซทีวี ผู้ฟ้องที่ 1-6 ได้มอบอำนาจให้นายธนเดช พ่วงพูล ทนายความ เดินทางมายื่นฟ้อง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จากกรณีที่ กสทช. มีคำสั่งให้เพิกถอนในใบอนุญาตกิจการโทรทัศน์ของ บจก. พีซ เทเลวิชั่น

            นายธนเดช พ่วงพูล ทนายความ ผู้รับมอบอำนาจจาก บจก. พีซทีวี กล่าวว่า หนังสือคำสั่งของ กสทช. ที่ให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการนั้น ส่งถึงเราเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 58 หลังจากที่ประชุม กสท.ได้มีการลงมติลงโทษ เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 58 โดยวันนี้การยื่นฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่ง ชะลอการบังคับตามมติของกสทช.ดังกล่าว ซึ่งเวลา 13.30 น. ศาลก็ได้ไต่สวนตนในเบื้องต้นในฐานะผู้รับมอบอำนาจ การฟ้องคดีเกียวกับสาเหตุและการความเดือดร้อนเสียหายที่นำมาสู่การฟ้องคดี ซึ่งศาลได้นัดมีการไต่สวนผู้ฟ้องทั้งหก รวมทั้งฝ่าย กสทช.ผู้ถูกฟ้องด้วย ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ เวลา 10.30 น.

ที่มา http://www.komchadluek.net/detail/20150630/208928.html